เศรษฐกิจไทยไม่ดีจริงหรือ? ขณะที่หลักฐานชี้สภาพค่าเงินไทยดีติดอันดับโลก



เนื่องจากสิ่งที่ผมเขียนเมื่อเช้าวันนี้ มีการตอบรับของผู้อ่านที่ดี ผมอยากจะเพิ่มข้อมูลให้ดูกันนะครับว่าบ้านเมืองเรามีศักยภาพเพียงใด ข้อมูลนี้ไม่มั่วเลย มาจากมอร์แกน สแตนเลย์ โดยใช้ข้อมูลจาก BIS, IFF, ธนาคารกลาง, การประเมินของ Fitch ในปี 2018 โดยใช้ข้อมูลการลงทุนจากนอกประเทศในรอบ 1 ปี โดยใช้ข้อมูลสภาพเศรษฐกิจ หนี้ระยะสั้น และการคืนหนี้ระยะยาวของปีหน้า
ส่วนอีกชาร์ตเป็นของ เจพี.มอร์แกน ที่แสดงให้เห็นการทรงตัวอยู่ในโซนการเงินที่ดี ยังใช้ได้ของประเทศไทย ส่วนข้อมูลก็ใช้ไม่ต่างกับข้างบน


ส่วนคนกลุ่มหนึ่งที่ท่องจำเหมือนกแก้วนกขุนทองโดนล้างสมองว่า "รวยกระจุก จนกระจาย" หรือ "ลองมาเดินตลาดนัดดูแล้วจะรู้" ผมคงหมดปัญญาที่จะแนะนำ เพราะบ้านเมืองเราไม่ใช่สมัยพ่อขุนรามคำแหงที่ต้องดูสภาพเศรษฐกิจจากตลาดนัด แต่ผมเองนั้นเป็นคนชอบเดินตลาดนัดนะครับ ผมขับรถไปต่างจังหวัดเห็นตลาดนัดเมื่อไรต้องจอดรถเดินทุกที่ ทั้งรถปิคอัพรถเครื่องจอดกันจนไม่มีที่จอด ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะแย่ตรงไหน

ส่วนจะรวยกระจุกจนกระจายจริงอย่างที่ท่องจำกันมาหรือเปล่า ลองหันหน้าไปมองเพื่อนบ้านหรือเพื่อนฝูงคนรู้จักดูว่าบ้านไหนถอยรถใหม่กันบ้าง บ้านไหนเขาทำมาหากินอะไรถึงอยู่ดีกินของแพงซื้อของให้ลูกเมียได้มากกว่าบ้านเรา แล้วค่อยพิจารณาตัวเองว่ามีศักยภาพหากินได้เหมือนเพื่อนบ้านที่เขาทำมาหากินได้เก่งกว่าหรือไม่

ถ้ามหภาคมันไปได้ดีและดีมากเสียด้วย แล้วบ่นว่าจุลภาคมันไม่ดีนั้นมันเป็นไปไม่ได้ เพราะนั่นมันหมายถึงความสามารถของแต่และบุคคลหรือแต่ละองค์กรแล้วว่ามีประสิทธิภาพการทำมาหากินขนาดไหน ควรต้องล้างองค์กรหรือปรับเปลี่ยนบุคคลที่วันๆ เอาแต่ท่องแต่สองประโยคอย่างที่ผมบอกนั่นแหละครับ

ประเทศไทยนั้นถ้าไม่งอมืองอเท้าไม่อดตายครับ พม่า เขมร จีน เข้ามาอยู่หากินกันเต็มไปหมด อยู่เมืองไทยไม่กี่เดือนก็ซื้อทองใส่กันแล้ว เพราะพวกเขาทำงานหนัก ไม่ใช่นั่งบ่นประเทศหรือบ่นรัฐบาลไปวันๆ แล้วไม่ทำอะไรดีๆ ให้กับตัวเองและครอบครัวเลย


*** ภาคที่หนึ่ง ***
ประเทศไทยนั้นโชคดีกว่าอีกหลายๆ ประเทศที่เวลานี้มีเหตุปั่นป่วนเรื่องค่าเงินไปทั่ว จะบอกว่าโชคคงไม่ใช่เท่าไรนักหรอกครับ เป็นเพราะเรามีวินัยด้านการเงินอยู่มากพอสมควร ทั้งที่เวลาสามปีที่ผ่านมาเราใช้เงินลงทุนทุ่มงบประมาณไปกับเรื่องอินฟราสตรักเจอร์และลอจิสติกส์ของประเทศไปมากกว่ารัฐบาลที่ผ่านมาหลายเท่าตัวก็ตาม 

แต่ IMF นั้นให้คะแนนในปี 2018 เราสูงพอสมควร ได้ 16 แต้มเท่ากับจีนและยังสูงกว่ามาเลย์เสียด้วยซ้ำ เพราะมาเลย์นั้นเจ็บหนักจากค่าเงินริงกิตที่อ่อนตัวอย่างรุนแรงมาสองปีแล้ว ประเทศไทยนั้นมีคะแนนจับกลุ่มอยู่กับ จีน เกาหลีใต้ และไต้หวัน โดยการให้คะแนนนั้นจะใช้ข้อมูลจากการส่งออก รายได้จากการลงทุนเมื่อเทียบกับหนี้ต่างประเทศ ความสามารถในการบริหารของรัฐบาล และข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของประเทศไทยเทียบกับ Q2-Q2 ของปีที่แล้วกับปีนี้จากธนาคารโลก เรียกว่าข้อมูลชุดนี้ที่สำนักข่าวบลูมเบอร์กเอามาลงนั้นไม่มั่ว มีที่มาที่ไปมากพอสมควร

แต่ก็ยังมีคนบ่นว่าไทยเราเศรษฐกิจไม่ดี บลา บลา บลา กันไม่หยุดทั้งที่ผมเห็นรถส่งพัสดุของเคอรี่ ไปรษณีย์ไทย แมวดำ ฯลฯ วิ่งส่งของให้ว่อนไปหมด จนเวลานี้ไปรษณีย์ไทยสาขาใหญ่ตามจังหวัดต่างๆ นั้นเปิดให้บริการแบบไม่มีวันหยุดกันแล้ว ธุรกิจออนไลน์ของสตาร์เตอร์ใหม่ๆ นั้นขายของเลี้ยงตัวได้ และเกิดใหม่ขึ้นมาเต็มไปหมด และพวกนี้ทำง่ายเจ๊งยาก เพราะต้นทุนต่ำมาก เนื่องจากไม่ต้องมีหน้าร้าน ลองไปส่งของที่ไปรษณีย์ดูก็ได้ว่าคิวยาวขนาดไหน ถ้าคนอื่นเขาขายของกันได้และขายดี คนที่บ่นว่าเศรษฐกิจแย่เงินหายาก บลา บลา บลา คงต้องพิจารณาตัวเองดูว่าปรับปรุงกิจการของตัวเองเพื่อรับมือการค้าแบบใหม่ที่คนอื่นเขาทำแล้วพวกเขาไปได้ไปรอดหรือเปล่า 

เชื่อไหมว่าผมเปิดดูร้านออนไลน์ขายของแบบที่ผมก็คาดไม่ถึงว่าจะมีสินค้าแปลกๆ จากบรรดาสตาร์ทเตอร์เจ้าใหม่เช่น สะตอแกะแล้วใส่ซองซิปปิดผนึกกันอากาศขายตามน้ำหนัก เพราะส่ง EMS วันรุ่งขึ้นก็ถึงแล้ว ที่แปลกจนผมหัวเราะคือใบหูกวางแห้งที่หล่นตามริมถนนบางสายก็มีคนเก็บมาขายออนไลน์ใบละสิบบาทเอาไว้ให้คนเลี้ยงปลากัดสั่งซื้อไปใส่โหลหมักปลา เรียกว่าตอนนี้ถ้ากล้าบ้าหาของมาขายที่มันแปลกๆ แหกตลาดก็มีคนบ้ากล้าซื้ออีกเช่นกัน สักวันผมคงเห็นคนเปิดบริการล้างรถถึงบ้านหรือที่ทำงานไม่ต้องขับออกมาล้างให้เหนื่อย ผมแนะนำเลยธุรกิจล้างรถถึงที่แบบนี้ไปได้แน่นอน เพราะคนทำงานในกรุงเทพมีเวลาพักผ่อนน้อยลงไปทุกทีจากสภาพจราจรที่จลาจลมาสักพักใหญ่แล้ว

*** ภาคที่สอง ***
ผมอยากจะเล่าต่อในสิ่งที่ผมเกริ่นมาตอนเริ่มเรื่องคือสภาพค่าเงินโดนถล่มตามประเทศต่างๆ ถึงประเทศที่เข้าข่ายไฮเปอร์อินเฟรชั่น (hyperinflation) หรือกำลังจะเข้าสู่ไฮเปอร์ในเวลาอันใกล้นี้

เอาที่คลาสสิกคือค่าเงินเฟ้อของประเทศเวเนซุเอล่าที่เวลานี้รัฐบาลต้องออกเงินใหม่ที่ตัดเลขศูนย์ออกห้าตัวเพราะเงินเฟ้อเกิน 1000% มาหลายปีติดต่อกัน ปีที่แล้วเฟ้อ 2616% จนคนเวเนซุเอล่าต้องหนีออกนอกประเทศนับแสนๆ คน ต้นเหตุนั้นมาจากที่รัฐบาลใช้นโยบายประชานิยมมานานจนประเทศล่มจมทั้งที่มีปริมาณน้ำมันสำรองมากอันดับต้นของโลกก็ตาม

ที่ตามมาติดๆ คือค่าเงินเปโซของอาร์เจนตินาที่ร่วงลงมาและมีอัตราเงินเฟ้อถึง 30% ในปีที่ผ่านมา จนเมื่อสองวันที่ผ่านมา ปธน.เมสริซิโอ มาร์ครี ขอร้องให้ IMF มาช่วยปลดล็อกทางตันของสภาพเศรษฐกิจในวงเงินห้าหมื่นล้านดอลล่าร์ จนถึงปีหน้าเพื่อเป็นหลักประกันโครงการต่างๆ ของประเทศยังเดินหน้าต่อไปได้ เพราะเวลานี้ค่าเงินกำลังร่วงแตะ 50% จากเดิมเมื่อเทียบกับดอลล่าร์ และรัฐบาลประกาศใช้ดอกเบี้ย 60% จากเดิม 40% เพื่อพยุงค่าเงิน และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อาร์เจนติน่าเคยเจอ เพราะในอดีตนั้นอาร์เจนติน่าล่มสลายมาหลายรอบแล้วจากการที่รัฐบาลแปรรูปรัฐวิสาหกิจและขายสัมปทานต่างกว่า 250 รายการจนสาธารณูปโภคหลักไปอยู่ในมือนายทุนต่างชาติเสียทั้งหมดในช่วงต้นยุค 90's นั่นคือจุดเริ่มต้นของหายนะของอาร์เจนติน่าเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้

อีกรายที่กำลังเจ็บหนักคือตุรกี เวลานี้ค่าเงินลีราเหลือไม่ถึงห้าบาท ผมจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่นั่งจิบกาแฟที่อีสตันบูลนั้นคือประมาณสิบบาท ปีที่แล้วฝากเงินไปซื้อของก็ไม่ร่วงมาขนาดนี้ สาเหตุคือการโดนถล่มค่าเงินโดยมือมืด และจากการที่สหรัฐนั้นประกาศขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมนำเข้าจากตุรกีเป็นสองเท่า ซึ่งตุรกีเข้าไปเจรจาแบบนิ่มๆ ก็ไม่สำเร็จเลยใช้ไม้แข็งสวนไปว่าจะเก็บภาษีสินค้าอเมริกันแบบโหดบ้าง จะบอกว่าการโดนมือมืดถล่มค่าเงินนั้นเป็นการสั่งสอนที่ ปธน.เอลโดกัน เป็นเด็กดื้อไม่ยอมลงให้สหรัฐแล้วหันไปซบกับรัสเซียในช่วงเกือบสองปีที่ผ่านมาก็ว่าได้ เวลานี้เงินเฟ้อในตุรกีคือ 16% และมีหนี้สินถึง 50% ของ GDP คือตุ้มเหล็กที่ล่ามขาจนขยับไปไหนไม่ออกเลยทีเดียว ค่าเงินร่วงไปแล้วกว่า 40% เมื่อเทียบกับดอลล่าร์เมื่อตอนต้นปี ปัญหาที่กำลังฉุดค่าเงินลีราอย่างต่อเนื่องจนไปถึงปีหน้าคือการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดจากการใช้จ่ายเงินกระตุ้นเศรษฐกิจแบบมือเติบในอดีตของรัฐบาลนายเอลโดกัน 

ส่วนอิหร่านนั้นก็อย่างที่รู้กันว่าโดนสหรัฐถล่มค่าเงินจากการแซงชั่นไม่เลิกอีกราย แต่ทรมาณจิตใจประชาชนชาวอิหร่านโดยทำให้อิหร่านลืมตาอ้าปากจากการขายน้ำมันได้เพียงสองปี GDP ก็พุ่งขึ้นมา 12.3% จากการขายพลังงานล้วนๆ พอประชาชนกินดีอยู่ดีได้ไม่นานก็เริ่มเสพติดความสบายในช่วงสั้นๆ แต่เมื่อประชาชนถูกถีบลงเหวอีกครั้งหลังจากได้สัมผัสสวรรค์ในระยะสั้นๆ ด้วยการโดนแซงชั่นขั้นสูงสุดจากสหรัฐอีกรอบ ก็เกิดแรงกดดันกับรัฐบาลอิหร่านมากเอาเรื่องเลยทีเดียว ที่ผ่านมานั้นเงินเฟ้อเมื่อสามปีก่อนขึ้นระดับ 31% ค่าของเงินเรียลลดลง 450% จากตัวเลขของธนาคารกลางอิหร่านคาดการว่าจะร่วงในระดับ 12% ไปอีกสามปี ถึงแม้รัฐบาลจะบูตเงินงบประมาณขึ้นไป หนึ่งแสนล้านดอลล่าร์สหรัฐก็ตาม แต่หักเงินเฟ้อแล้วกลายเป็นงบประมาณลดลงจากเดิม เวลานี้คนว่างงานมีอยู่ 12% และในพื้นที่ห่างไกลออกไปสูงถึง 60% เลยทีเดียว

*** ภาคที่สาม ***
ยังมีอีกหลายประเทศครับ แต่ผมของสวิทซ์กับมาเอเซียบ้าง ประเทศแรกเลยที่กำลังอ่วมในตอนนี้คืออินโดนีเซียที่ค่าเงินทรุดหนักในรอบ 20 ปี ค่าเงินลงไปถึง 14,750 รูเปียต่อดอลล่าร์ ลงไประดับเดียวกับเมื่อครั้งต้มยำกุ้งเลยทีเดียว ธนาคารกลางของอินโดนีเซียพยายามขึ้นอัตราดอกเบี้ยสองครั้งภายในสัปดาห์เดียวก็ไม่ได้ผล สิ่งที่ถ่วงประเทศคืออินโดนีเซียมีหนี้ที่เป็นเงินสกุลต่างประเทศมากถึง 30% ของ GDP ซึ่งพร้อมจะเป็นระเบิดเวลาระเบิดใส่หน้าเมื่อไรก็ได้ สิ่งกระทบกับมวลหมู่ประเทศอาเซียนคืออินโดนีเซียจะขึ้นภาษีสินค้าอีก 500 รายการ คราวนี้การค้าของกลุ่มอาเซียนอาจจะโดนผลกระทบจากความหน้ามืดขึ้นภาษีของอินโดไม่น้อยเลยทีเดียว

ประเทศที่สองที่เจอค่าเงินเล่นงานคืออินเดีย เวลานี้ค่าเงินรูปีอ่อนตัวทรุดหนักในรอบ 20 ปี ลงไปอยู่ระดับ 71 รูปีต่อดอลล่าร์ ซึ่งตั้งแต่ต้นปีนี้ร่วงลงมา 10% ซึ่งอินเดียนั้นมีน้ำหนักโมเมนตัมของเศษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเซียใต้ การขยับตัวแต่ละครั้งสะเทือนเพื่อนบ้านที่ค้าขายร่วมกันอยู่ไม่น้อย สาเหตุแรกคือกำแพงภาษีของสหรัฐที่มีผลต่ออินเดียไม่น้อย และอีกเรื่องคือสภาวะแห้งแล้งที่ติดต่อกันมานาน อินเดียนั้นใช้น้ำถึง 80% ทั้งภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ดังนั้น GDP คาดว่าจะร่วงลงมาถึง 6% จากการที่ดีมานด์ของน้ำมากกว่าซัพพลายถึงสองเท่า และอาจจะนำไปพบกับการขาดแคลนอาหารในปลายปีนี้และต้นปีหน้า ที่เรื่องนี้จะฉุดตัวเลขทางการเงินลงไปอีก 

*************************************************

ตอนนี้เห็นแล้วหรือยังครับว่าประเทศไทยนั้นโชคดีกว่าอีกหลายๆ ประเทศที่เวลานี้กำลังปั่นป่วนเรื่องค่าเงินไปทั่ว การเงินของเรานั้นมั่นคง การเติบโตยังมีอย่างต่อเนื่อง หนี้สินนั้นก็มีไม่มาก ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติและยังน้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้านอีกหลายประเทศ เงินสำรองของเราก็มีไม่น้อย ระดับท็อป 20 ของโลกประเทศหนึ่ง รัฐบาลทหารนั้นที่ตอนแรกก็มีคนดูถูกเรื่องการบริหารดูแลด้านการค้า การส่งออก และการเงิน ตอนนี้ก็มีไพ่ตัวดีเข้ามาช่วยเรื่องเศษฐกิจหลายคน เมื่อมองย้อนไปหลายประเทศที่กำลังจะล่มสลายทางเศรษฐกิจ รวมทั้งเพื่อนบ้านใกล้ๆ อีกสองประเทศในกลุ่มอาเซียนแล้ว คนที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้จะรักเมืองไทยขึ้นอีกเยอะมากเลยครับ เพราะประเทศเรานั้นเมื่อเทียบกับบรรดาประเทศมีปัญหาด้านการเงินที่ผมเล่าให้ฟังนั้น สภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยทุกวันนี้คือสรรค์สำหรับพวกเขาเลยทีเดียว

Pat Hemasuk
เศรษฐกิจไทยไม่ดีจริงหรือ? ขณะที่หลักฐานชี้สภาพค่าเงินไทยดีติดอันดับโลก เศรษฐกิจไทยไม่ดีจริงหรือ? ขณะที่หลักฐานชี้สภาพค่าเงินไทยดีติดอันดับโลก Reviewed by admin on 11:35 AM Rating: 5

No comments