เมื่อขั้วโลกใต้ส่งเสียงเตือน เวลาของเราใกล้หมดแล้ว
วันนี้ผมให้สัมภาษณ์เรื่องหิ้งน้ำแข็งหลุดจากขั้วโลกใต้ เลยสรุปเรื่องมาบอกเพื่อนธรณ์
โลกกำลังร้อนขึ้น ปัญหาใหญ่มาจากการกระทำมนุษย์ ก๊าซเรือนกระจกคือตัวการสำคัญ เรื่องนั้นพวกเรารู้กันดีแล้ว
สหประชาชาติพยายามหาทางให้คนทั้งโลกมาร่วมมือ จนเกิด Paris Agreement ที่อาจช่วยผ่อนหนักเป็นเบา แต่จู่ๆ นายทรัมป์ก็บอกว่าอเมริกาขอถอนตัวเฉยเลย แถมยังบอกว่าโลกร้อนเป็นเรื่องตลก ฮ่าๆ ตรูไม่เชื่อเฟ้ย
โป๊ะ...แคร็ก ส่วนหนึ่งของหิ้งน้ำแข็งขนาดยักษ์ชื่อ Larsen C แตกเปรี๊ยะหลุดจากขั้วโลกใต้ (แล้ว Larsen A กับ B หายไปไหน ? คำตอบคือแตกไปก่อนหน้านี้และละลายไปหมดแล้วฮะ)
ส่วนที่แตกออกมาของ Larsen C เป็นการแตกตัวของน้ำแข็งขั้วโลกใต้ ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึก ขนาด 5,300 ตร.กม. ใหญ่กว่ากรุงเทพเกือบ 4 เท่า (กรุงเทพมีพื้นที่ 1,500 ตร.กม.)
นอกจากใหญ่ ยังหนาถึง 350 เมตร สูงกว่าตึกมหานคร ตึกสูงที่สุดของประเทศไทย (ตึกสูง 314 เมตร)
ใหญ่และหนาไม่พอ ยังหนักอึ้ง น้ำหนัก 1 ล้านล้านตัน หรือเท่ากับวาฬบรูด้า 50,000,000,000 ตัว (ห้าหมื่นล้านตัว วาฬบรูด้าหนักเฉลี่ย 20 ตัน)
บอกแค่นี้ เพื่อนธรณ์คงใกล้ช็อค แล้วน้ำไม่ท่วมโลกเหรอ ?
ผมขอพาเรามุ่งหน้าไปขั้วโลกใต้ เวลาเราได้ยินคำว่าน้ำแข็งละลาย น้ำท่วมโลก ขอให้คิดถึงขั้วโลกใต้เข้าไว้
เหตุผลคือขั้วโลกใต้มีแผ่นดิน น้ำแข็งละลายจากแผ่นดินลงทะเล น้ำจะเพิ่มขึ้น
ขั้วโลกเหนือเป็นน้ำแข็งลอยอยู่ในน้ำทะเล ละลายก็ไม่มีผลมาก (ยกเว้นเกาะกรีนแลนด์มีหิมะจำนวนมากอยู่บนเกาะ)
นักวิทยาศาสตร์จับตาดูน้ำแข็งขั้วโลกใต้ด้วยความหวาดเสียว โดยเฉพาะ Antarctic Peninsula
AP เป็นแหลมยื่นเป็นจงอยออกมาจากขั้วโลกใต้ ชี้ไปทาง South Africa นักวิทยาศาสตร์บอกว่าบริเวณนี้แหละที่ร้อนเร็วกว่าตรงอื่น
เป็นแหลมก็ย่อมมีอ่าว ในอ่าวเป็นแผ่นน้ำแข็งหนาหลายร้อยเมตร แผ่นแบบนี้เรียกว่า Ice Shelf หากแปลเป็นไทยตรงตัวได้ว่า “หิ้งน้ำแข็ง” (ผมรู้สึกทะแม่งๆ กับคำนี้ แต่ก็ใช้ไปก่อนแล้วกัน)
เจ้าแผ่นน้ำแข็งดังกล่าวลอยอยู่ในน้ำ แม้จะแตกออกและละลาย ก็ไม่ได้มีปัญหามาก
ทว่า...ฮ่าๆ อย่าดีใจไปครับ เพราะหิ้งน้ำแข็งคอยกันกลาเซียร์หรือธารน้ำแข็งที่ไหลลงสู่ทะเล ให้ไม่ไหลลงมาเร็วไปนัก
ถ้าหิ้งน้ำแข็งแตกหลุดไป กลาเซียร์พาน้ำแข็งจากแผ่นดินไหลลงทะเลเร็วขึ้น ระดับน้ำทะเลก็สูงขึ้น
หิ้งน้ำแข็ง Larsen ค่อยๆ หลุดออกมาทีละชิ้น ตั้งแต่ A และ B จนเริ่มมีรอยร้าวที่แผ่น C
นักวิทยาศาสตร์ใช้ดาวเทียมตามดูรอยแยกยาว 120 ไมล์ พลางบอกชาวโลกว่าไอ๋หยา แย่แล้วจ้า แต่มีคนฟังไม่เท่าไหร่ ส่วนใหญ่ไปติดตามป้าซุ่มทุ่มไม่อั้น
ในที่สุด นักวิทยาศาสตร์จากอังกฤษก็ร้องจ๊าก ตะโกนบอกว่า ณ บัดนาว ส่วนหนึ่งที่แตกจากหิ้งน้ำแข็ง Larsen C หลุดออกมาแล้วจ้า หลุดอย่างอิสรเสรี
เมื่อหลุดออกมาก็จะพังทลาย กลายเป็น Ice Berg ลอยเท้งเต้งกลางทะเล ก่อนสูญสลายไปเหมือนรุ่นพี่ Larsen A&B
ส่วนหนึ่งของหิ้งน้ำแข็ง C มีพื้นที่ 12 เปอร์เซ็นต์ ของหิ้งน้ำแข็ง Larsen ทั้งหมด
เมื่อแตกออกไป หิ้งที่เหลือก็เริ่มจะทานไม่ไหว และอาจพังทลายตามมาในไม่ช้า
นักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งบอกว่า ยังไม่เป็นไรหรอก หิ้งน้ำแข็ง Larsen กั้นกลาเซียร์ไม่ใหญ่มาก หากพังหมด กลาเซียร์ไหลลงทะเล อย่างเก่งก็น้ำทะเลสูงขึ้น 10 เซนติเมตร ก็แค่ปลาตีนย้ายที่หากินเท่านั้น
นักวิทยาศาสตร์กลุ่มนั้นอาจอยู่บนเทือกเขาร็อคกี้ แต่ประเทศที่อยู่ริมฝั่งทะเลอย่างมัลดีฟส์ เมืองที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเลนิดเดียวเช่นบางกอก คงบอกว่าเป็นไรสิเฟ้ย
นักวิทยาศาสตร์อีกกลุ่มบอกว่า ถ้าหิ้ง Larsen พังได้ ที่อื่นก็พังตามได้ด้วยสิจ๊ะ ยังมี Ice Terrace อีกมากที่กั้นธารน้ำแข็งในขั้วโลกใต้
ถ้าพวกนั้นค่อยๆ ทยอยแตก คราวนี้แหละปลาตีนจะไปอยู่รังสิต เพราะระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
นักวิทยาศาสตร์บางคนบอกว่า ปรากฏการณ์แบบนี้ไม่เกี่ยวกับภาวะโลกร้อนที่มนุษย์ทำมั้ง เป็นแค่ปรากฏการณ์ธรรมชาติ Natural Phenomenal ฮ่าๆ ยูรู้จักป่าว ?
นักวิทยาศาสตร์อีกกลุ่มบอกว่ารู้เฟ้ย ว่าแต่ยูรู้ได้ไงว่าไม่เกี่ยว เก่งขนาดนั้นเลยเรอะ ยูพวกทรัมป์หรือเปล่า
ผมก็เป็นนักวิทยาศาสตร์ ผมสรุปง่ายๆ ให้เพื่อนธรณ์ฟังว่า มันจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยว โลกมันก็ร้อนขึ้น และน้ำแข็งก็ละลายหนักขึ้นเรื่อยๆ
ถ้าคิดว่าไม่เกี่ยว จะให้เราท่องว่า Natural Phenomenal จนน้ำทะเลท่วมบ้านเรอะ ?
ไม่เกี่ยวแล้วรัฐบาลเกือบทุกประเทศในโลก จะยอมมาเจรจาด้วยกันเกือบสิบปี จนมีข้อตกลงปารีสทำไม ? จะเดือดร้อนอะไรหนักหนา ?
เพราะฉะนั้น อะไรช่วยได้ต้องช่วยกัน เพราะความเดือดร้อนกำลังมาเยือน
ผมคงไม่ต้องอธิบายว่าเราจะลดก๊าซเรือนกระจกได้ยังไงบ้าง
ผมเพียงอยากบอกว่า ขั้วโลกใต้ส่งเสียงเตือนแล้ว เตือนดังที่สุดเท่าที่เคยมีมาด้วยนะ
น้ำท่วมโลกเป็นเพียงเศษเสี้ยวของภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจากโลกร้อน เพราะเราไม่เรียกโลกร้อน นักวิทยาศาสตร์เรียก “สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง” (Climate Change)
เมื่อน้ำแข็งแตกอย่าคิดถึงแค่น้ำท่วมโลก อยากให้คิดถึงภัยแล้ง น้ำท่วม ปะการังฟอกขาว พายุรุนแรง คลื่นความร้อน ฯลฯ
เคราะห์ดีที่ผมเริ่มแก่แล้ว แต่ลูกผมหลานผมคงต้องเผชิญมหันตภัยเหล่านั้น
และพวกเขาคงไม่มีทางแก้ไขอะไรได้ ยกเว้นส่งเสียงต่อว่าพ่อแม่ปู่ย่าตายาย
ทำไมถึงส่งโลกเน่าๆ ให้พวกเขาพวกเธอครับ ?
เมื่อขั้วโลกใต้ส่งเสียงเตือน เวลาของเราใกล้หมดแล้ว
Reviewed by admin
on
2:55 AM
Rating:
No comments