นายกรัฐมนตรีไทยประชุมทวิภาคีกับรัสเซีย หวังพลักดันไทยเป็นศูนย์กลางตลาดการค้า




ข่าวอาจจะหลายวันแล้ว แต่ผมคิดว่าคนส่วนมากยังไม่รู้ แต่ผมมั่นใจว่าถึงรู้แต่ก็รู้ไม่ครบหรอกครับ

สิ่งที่นายกลุงตู่ ประชุมทวิภาคีกับ วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ระหว่างการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน

สิ่งที่ลุงตู่คุยกับปูติน และปูตินคุยกับลุงตู่ในครั้งนี้คือ

1. การค้าระหว่างไทยกับรัสเซียในปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ปูตินต้องการให้ทั้งสองฝ่ายผลักดันให้การค้าเพิ่มเป็นหมื่นล้านดอลลาร์ภายในปีสองปี

2. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจรัสเซีย จะขอนำเอาคณะนักธุรกิจเอกชนของรัสเซียมากกว่า 50 บริษัทมาเยือนประเทศไทยในอีกสามเดือนข้างหน้าเพื่อจัดฟอรร์รัมทางธุรกิจและจับคู่ทางธุรกิจในการค้าขาย เรื่องนี้สำคัญนะครับ ใครอยากจะขายอะไรก็หาพันธมิตรในงานได้เลย เขาขายโน่นเราขายนี่จับคู่กันตามสะดวก

3. ปูตินแจ้งลุงตู่ว่านักธุรกิจของรัสเซียต้องการเยี่ยมชมพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก EEC นายกลุงตู่รับลูกทันทีกล่าวเชิญชวนให้เข้ามาลงทุนในพื้นที่ EEC และอุตสาหกรรม S-Curves ของไทย
ผมขอเพิ่มเติมว่า ผมบอกได้เลยนะครับว่าพัทยานั้นคือสวรรค์ของคนรัสเซียไม่แพ้ภูเก็ต ใครมีธุรกิจกับไทยก็อยากมาทำงานตั้งฐานที่นิคมอุตสาหกรรม ชลบุรี-ระยอง แล้วอยู่ที่พักใกล้ๆ พัทยา เวลานี้ชุมชนรัสเซียที่พัทยามีกลุ่มใหญ่พอสมควรและไม่ทำตัวเป็นมาเฟียให้เกิดปัญหาในพื้นที่แต่อย่างไร เพราะพวกนี้มาอยู่ยาวไม่กล้าซ่ามากไปกว่าโซดาค้างคืนสักเท่าไร

4. ลุงตู่บอกว่ารัสเซียยังสามารถใช้ไทยเป็นศูนย์กลางตลาดการค้าในกรอบความร่วมมืออนุภูมิภาค ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี - เจ้าพระยา - แม่โขง( ACMECS) อีกด้วย ไทยเรานี่แหละเหมาะที่สุดแล้ว เพราะระบบลอจิสติกส์ของไทยนั้นดีที่สุด และพื้นที่ของไทยอยู่ตรงกลางของกลุ่มนี้ ตั้งที่นี่ดีที่สุด

5. ปธน.ปูตินได้แจ้งว่าประธานคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจยูเรเชีย (EAEU) ได้เดินทางเยือนไทยในวันนี้ (วันที่ 16 พ.ย.61) และจะอยู่จนถึงต้นสัปดาห์หน้าเพื่อลงนามร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ของไทย เพื่อเริ่มต้นกระบวนการจัดทำความตกลงการค้าเสรีระหว่างกัน นายกลุงตู่แจ้งกับปูตินว่าดีใจมากที่ทราบ ผมว่าลุงตู่รู้แล้วล่ะ แต่แกล้งทำเป็นดีใจตามปูตินบอก

6. ปธน.ปูตินออกปากจะดูแลนักธุรกิจไทยที่ไปลงทุนในรัสเซีย ซึ่งแน่นอนว่าอุตสาหกรรมอาหารและสินค้าเกษตรบางตัวนั้นจะได้ประโยชน์ไปแบบเต็มๆ ผลไม้ ปลาทะเล ไก่ ยาง น้ำมันปาล์ม น่าจะได้ตลาดนี้ระบายสินค้าไปไม่มากก็น้อย เอกชนรายย่อยยอดขายหลักสิบล้านหลักร้อยล้านก็เข้าได้ ผมบอกได้เลยว่าตลาดรัสเซียนั้นไม่ได้ผูกขาดการเข้าไปค้าขายแต่รายใหญ่เช่น CP เหมือนในเมืองจีนและเวียดนามในยุคก่อนอีกแล้ว (เอาไว้ถ้าไม่ลืมผมจะเล่าเรื่องที่ CP เข้าจีนเวียดนามแล้วเจ๊งกลับมาให้ฟัง เรื่องนี้เป็นเคสสตัดดี้ทางธุรกิจที่คลาสสิกมาก)

7. นายกลุงตู่เชิญ ปธน.ปูตินมาเยือนไทยปีหน้า โดยเชิญในฐานะประธานอาเซียน เพื่อคุยต่อเรื่องการสานความสัมพันธ์ของเศรษฐกิจเพื่ออนาคตทางธุรกิจของทั้งสองประเทศ และเชิญปูตินเข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก หรือ The East Asia Summit (EAS) ที่จะจัดในประเทศไทย
*** (ผมเชื่อว่าปูตินมาแน่ เพราะการประชุมครั้งนี้สำคัญไม่น้อยเลยทีเดียว และอีกอย่างคือ ลุงตู่มั่นใจเกินร้อยว่าจะนั่งเป็นนายกต่อในปีหน้า ไม่อย่างนั้นคงไม่กล้าออกปากในเรื่องแบบนี้ และปูตินก็รู้ว่ารัฐบาลหน้าลุงตู่ก็ยังมีโอกาสที่จะยังคงนั่งเก้าอี้ตัวเดิมในเปอร์เซ็นต์ที่สูงมาก)

8. ปูตินรับปากว่าจะสานสัมพันธ์กับไทยในทุกเรื่อง ผมอยากจะย้ำให้สังเกตุคำว่า "ทุกเรื่อง" ที่ปูตินพูด เพราะในข่าวใช้คำว่า Dimension หรือทุกมิติ นี่คือศัพท์ที่ใช้บ่อยมากทั้งในรัฐศาสตร์และการทหาร และอวยพรให้การเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้ประสพความสำเร็จ

นายกรัฐมนตรีไทยประชุมทวิภาคีกับรัสเซีย หวังพลักดันไทยเป็นศูนย์กลางตลาดการค้า นายกรัฐมนตรีไทยประชุมทวิภาคีกับรัสเซีย หวังพลักดันไทยเป็นศูนย์กลางตลาดการค้า Reviewed by admin on 2:06 AM Rating: 5

No comments