ความพังทลายของรัฐสวัสดิการสหภาพยุโรป ทำไมยุโรปจึงวุ่นจะเกิดการปฏิวัติใหม่



วันนี้ การประท้วงความไม่พอใจในชีวิตและเศรษฐกิจที่ขยายแพร่ไปในยุโรป จากห้าประเทศ วันนี้ไปถึงสวีเดน และจะลามไปในประเทศที่ภาษีสูงในยุโรป เพราะคนอยู่ไม่ได้ เกิดสภาพที่สร้างความตระหนกแก่ระบบเศรษฐกิจทั่วโลก

ความเปลี่ยนแปลงกำลังเกิดขึ้น

อย่างเรื่องรัฐสวัสดิการ เพ้อเจ้อมาก
ถ้าจะทำที่เมืองไทย บอกวิธีหาเงินมา ไม่งั้นเจ๊ง คิดเลขให้ดูได้เลย

ทำไมยุโรปจึงวุ่น จะเกิดการปฏิวัติใหม่
คนที่มาประท้วงกลุ่มนี้มาจากเมืองชนบทฝรั่งเศส เป็นลุง ป้า น้า อา ที่นักท่องเที่ยวจะเจอได้ทั่วไปเวลาไปเที่ยวฝรั่งเศส ทำงานตามร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ขับรถขนส่งของ ทำงานในโรงงานแปรรูปเกษตร หรือโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ

คือ คนธรรมดาๆ ที่ทำงานธรรมดาๆทั่วไป ไม่ใช่กลุ่มหัวรุนแรง ไม่ได้เป็นพวกมีความเชื่อทางการเมืองฝั่งซ้ายหรือฝั่งขวาสุดขั้ว

คนที่มาเข้ากลุ่มเสื้อกั๊กเหลือง ส่วนมากเป็นคนฝรั่งเศสแท้ๆ คนผิวขาว ที่พยายามทำงานเพื่อหาเงินใช้เดือนชนเดือน แต่รู้สึกว่าทำยังไงก็ไม่พอกินเพราะรัฐเอาไปหมด ไม่ใช่พวกคนผิวสีจากอาฟริกา หรือตะวันออกกลาง ไม่ใช่แก๊งค์วัยรุ่น

คงเทียบได้กับกลุ่มฐานเสียง The Deplorables ของทรัมป์ที่สหรัฐ

ชาวฝรั่งเศสถูกรัฐสวัสดิการเพิ่มภาระภาษีมากขึ้นเรื่อยๆมาเป็นเวลากว่า 60 ปี ตั้งแต่รุ่นพ่อมาจนรุ่นลูก

ไม่มีแนวโน้มว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น สำหรับชนชั้นกลางและชนชั้นล่าง มีแต่ภาระภาษีที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งภาษีเงินได้ ภาษี VAT และภาษีอื่นๆ และราคาสินค้า อาหาร ที่แพงขึ้นๆเรื่อยๆ

ปัจจุบันนี้คนทำงานจ่ายภาษีเงินได้ที่อัตรา 50-60% ทำงานได้เงินเท่าไร เสียเป็นภาษีเงินได้ไปแล้วครึ่งหนึ่ง ยังไม่รวมภาษี VAT ภาษีสรรพสามิต และภาษีอื่นๆ

ทุกวันนี้ ชาวฝรั่งเศสที่มีรายได้น้อยไม่สามารถใช้ชิวิตอยู่ได้ รายได้เดือนละ 800 ยูโร หรือประมาณ 32,000 บาท คือไม่พอกิน รายได้เดือนละ 1,200 ยูโร หรือประมาณ 50,000 บาท คือพอกินแบบประหยัดมากๆ

รายได้ที่จะอยู่อย่างชนชั้นกลาง - กินข้าวนอกบ้าน ดูหนัง ช้อปปิ้ง - ได้อย่างปกติในฝรั่งเศสน่าจะเดือนละ 150,000 บาทขึ้นไป

ถ้าจะอยู่อย่างสบายคงต้องรายได้เดือนละ 500,000 บาทอัพ
คนหลายคนในชนบทโตมากับการกินแต่มันฝรั่ง ซึ่งถูกที่สุด พวก Duck Confit หรือ เนื้อลูกวัวตุ๋นอะไรนี่ ไม่รู้จัก

คนกลุ่มนี้รู้สึกว่า ปธน มาครอง ที่ใช้ชีวิตเป็นนักการเงินมาก่อน เป็นคนอีกพวกนึง ที่ไม่เข้าใจชีวิตพวกเค้า ไม่เข้าใจความลำบาก ความไม่พอกินของเค้าและลูกหลาน และไม่เห็นใจเค้า

ตลอดเวลาปีกว่าที่มาครองเข้ามาเป็น ปธน

ทำนโยบายเพิ่มภาษีเข้ารัฐสวัสดิการ ภาระตกอยู่ที่ชนชั้นกลาง และผู้มีรายได้น้อย

ทำนโยบายตามอุดมการณ์ ความเชื่อ ทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อม การรับผู้อพยพจากตะวันออกกลาง โดยไม่ดูความจริงของชีวิตความเป็นอยู่คนฝรั่งเศส

พอเค้ามาประท้วงก็หยามความรู้สึกของพวกเค้า ทำเหมือนพวกเค้าเป็นศัตรู

ตอนนี้กลุ่มผู้ประท้วงรู้สึกเป็นศัตรูโดยตรงกับมาครอง ตอนนี้ความรู้สึกเกินเรื่องประท้วงนโยบายแล้ว แต่ต้องการสั่งสอนมาครอง ล้มล้างมาครอง

เค้ามองว่าครั้งสุดท้ายที่ผู้นำฝรั่งเศสทำตัวเหินห่างประชาชน หยามเหยียดความแร้นแค้นของประชาชน อยู่ดีกินดีอยู่บนความลำบากของพวกเค้าขนาดนี้ ก็คือครั้งที่เกิดการปฏิวัติฝรั่งเศส

หลังจากการปฏิวัติครั้งนั้น ชาวฝรั่งเศสทุกวันนี้ก็ยังคงความเป็นกบฏอยู่ในตัว กลายเป็น tradition ของคนชาตินี้ไปแล้ว

เพลงชาติ La Marseillaise ที่คนไทยฟังทำนอง ก่อนทีมชาติฝรั่งเศสลงแข่งบอล

จริงๆแล้วเนื้อเพลงเป็นเรื่องการต่อสู้ของประชาชนเพื่อความอยู่รอด เพื่อความเป็นอยู่ของครอบครัว เพื่อชีวิตของคนรัก เพื่อชัยชนะ

ตอนนี้ชาวเสื้อกั๊กเหลืองกำลังต่อสู้กับระบอบรัฐสวัสดิการด้วยประวัติศาสตร์และตัวตนความเป็นคนฝรั่งเศสเต็มร้อย

มาครองที่เป็นตัวแทนของระบอบรัฐสวัสดิการ ได้กลายเป็นศัตรูของคนฝรั่งเศสไปแล้วครับ

นี่คือบทสรุปจากความเห็นของประชาชนธรรมดาๆ ชาวฝรั่งเศส ที่อยู่ในคลิปที่แล้ว

เดี๋ยวจะตามมาด้วยบทวิเคราะห์สถานการณ์ระดับนโยบาย


1. เกิดจากสนธิสัญญาเสถียรภาพและความเติบโต Stability and Growth Pact (SGP) ที่ทำกันในหมู่สมาชิกประชาคมยุโรป

- ฝรั่งเศสและประเทศต่างๆ ต้องดูแลภาพรวมคือ ขาดดุลการค้าไม่เกินร้อยละ 3 ของ GDP ขาดดุลชำระเงินไม่เกินร้อยละ 5 ของ GDP หนี้ไม่เกินร้อยละ 5 ของ GDP มีรายละเอียดของแต่ละประเทศครับ

ทำไม่ได้ก็ต้องขึ้นภาษี เช่นที่มาครงขึ้นภาษีน้ำมัน ราคาน้ำมันยิ่งลด ภาษีน้อย ก็ต้องขึ้นอัตราภาษีมาก ชาวบ้านจึงโวย ยิ่งมาขึ้นภาษีพลังงานตอนหน้าหนาว นี่เหมือนยุคปฏิวัติฝรั่งเศส เพราะคนหนาว เดินไม่ได้ สู้กับรัฐบาล

เป็นกันทั้งยุโรป

หรือต้องตัดรายจ่ายเช่น ค่าดูแลสวัสดิการคนชรา คนว่างงาน
ถ้าไม่ทำตามสัญญาประเทศอื่นจะบีบ ถ้าเบี้ยวกันมาก ไม่รักษากติกา ก็ล้มทั้งอียู เกิดวิกฤติ

ประเทศที่แข่งไม่ได้ จะลดค่าเงินก็ไม่ได้ เพราะเป็นเงินอียู ต้องปล่อยให้คนว่างงานมากขึ้นเรื่อย ประเทศอ่อนแอ จึงมีคนว่างงานมาก อพยพมาประเทศแข็งแรง มีงานอย่างเยอรมัน ฝรั่งเศส อังกฤษ ประเทศพวกนี้ก็ต้องดูแลคนว่างงาน หรือ เพิ่มภาษีไปเลี้ยงประเทศอ่อนแอ ไม่ให้อพยพมา

คนจนมากขึ้นเรื่อยๆ หนีไปต่างประเทศก็มาก มานอนกินเงินว่างงานที่เมืองไทยก็มี
เพราะเงินไม่พอกินที่นั่น

2. เกิดจากการ
คิดว่าจะพึ่งกันเองคิดว่า Union จะทำให้ประชาคมยุโรปไปรอด ค้ากับอเมริกาก็อยู่ได้ ลดภาษีให้กัน หวังพึ่ง WTO
- ประเทศย่านเอเซีย จึงทำ FTA ลดภาษีค้ากันเอง ค้ากับออสเตรเลีย ไทยค้ากับ EU แค่10% เท่านั้น

อียูจะมาทำ FTA ตั้งเงื่อนไขการเมือง สิ่งแวดล้อม มาตรฐานแรงงาน เทคโน คนเอเซีย ก็ไม่เอาด้วย เศรษฐกิจจึงขยายไม่ออก คนว่างงานตรึม

EU ไม่ค่อยสนใจประเทศกำลังพัฒนายุคนั้น กติกาก็เน้นกลไกโลกที่เรียก WTO อย่างเดียว

แต่ภายหลังประเทศต่างๆทำ FTA กันตั้งสามร้อยกว่าฉบับ งดเว้นภาษีระหว่างกัน ของอียูก็เลยแพง คนไม่ค้าขายด้วย

ปล่อยให้ตระกูลรวยเก่าค้าขายกันเอง ค้าของโบราณ คนรวยใหม่เกิดแถวเอเซีย เช่น ญี่ปุ่น จีน เกาหลี ใต้หวัน ฮ่องกง ไทย
เขาเรียกว่า การบินขึ้นทั้งฝูงของฝูงห่านฟ้า แห่งเอเซีย อย่างมีขั้นตอน ซึ่งสวยงามมาก มีกำลังซื้อ

3. เศรษฐกิจโลก 
เจอเศรษฐกิจโลกพัง อียูก็พัง ต้องออกเงิน QE ต้องใช้หนี้ ดอกเบี้ยจะขึ้น
- เงินขาด แอบไปขอกู้เงินเฟดบ่อย พรินท์เงินใช้กัน
เขาก็เดือดร้อน เหมือนชาวบ้าน

คนจน คนว่างงานก็เพิ่มเรื่อยๆ ผู้อพยพก็มาจากอาฟริกา เพิ่ม
อังกฤษจึงขอออกจาก EU

เศรษฐกิจดิจิตอลด้วย

4. การรับผู้อพยพทั้งจากภายในอียู และจากต่างประเทศ
- เรื่องนี้ใหญ่มาก มีสถิติรายประเทศ ผู้อพราว 10% กว่า แต่ยังมีลูกหลานผู้อพยพรุ่นก่อนด้วย

อังกฤษส่วนใหญ่ ปากี อินเดีย บังกลาเทศ ตอนนี้มาจากอาฟริกา

เมืองไทยเสร็จแน่ โกงจัดซื้อคอมป์กันจนลิงค์ระหว่างหน่วยงานไม่ได้ ตรวจสอบไม่ได้ พรรคไหนบ้าง แฉดีมั้ย

มีสถิติให้ คนยุโรปเก่าจึงจน
โดยเฉพาะตอนนี้อาณานิคมเก่าทั้งในเอเซียอาฟริกาจะมายึด
รับมาต่อเนื่องจนเกิดคนอพยพหลายรุ่นอายุ ดูบีบีซีจะเห็น

5. อัตราภาษี 
โหดมาก ร่วม 50% ในประเทศสำคัญ ประเทศจนภาษีน้อย

6. 
รัฐสวัสดิการและจิตใจ Globalist และ Human Rights ทำให้พัง
- สังคมยุโรปนั้นเรียนรู้ความขัดแย้งทางชนชั้น ตั้งแต่ยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรมในอังกฤษ ขยายไปทั่วยุโรป

สถานการณ์เหมือนในหนังสือ ทอม ซอเยอร์ ที่เราเรียนกันสมัยมัธยม มีการกดขี่กันสูงมาก

ที่เบลเยี่ยมก็มีผับที่ดังมาก ของนายทุน และแรงงานตั้งอยู่ใกล้กัน ที่บรูทจ์

แนวคิดระบบสังคมแบบสแกนดิเนเวียซึ่งเป็นสังคมเครือญาติโจรสลัดไวกิ้งก็มาผสม นี่คือที่มาของรัฐสวัสดิการ

ประเทศอดีตบริวารของสหภาพโซเวียด ก็ติดอุดมการณ์มาร์กซิสม์มา แนวเดียวกัน

ผลของรัฐสวัสดิการระยะยาว เป็นอย่างที่เห็น คนจนเต็มเมือง
คนธรรมดาๆ เดือดร้อน คนรวยย้ายไปลงทุนในต่างประเทศ ผู้อพยพแห่กันเข้ามา รัฐไม่มีเงิน ต้องเพิ่มภาษี

จิตใจความเป็นโลกนิยม Globalist ของชาวยุโรป
เกิดจากความรู้สึกว่ายุโรป เคยครองโลก เรียกว่า Europe Centric

ชาวโลกล้วนเคยเป็นอาณานิคม เคยก่อกรรมไว้มาก จึงยอมรับผู้อพยพด้วยเหตุผลนี้ ในยุคก่อน ด้วยสำนึกผิด

รวยจากอาณานิคมมามาก ตอบแทนเสียบ้าง เช่น
รวยจากการค้ากับอินเดีย เอาเงินไปสร้างอังกฤษ

เงินจากการมอมฝิ่นคนจีน มากพอให้สร้างลอนดอน นำไปซื้อไม้จากสแกนดิเนเวีย ซื้อหินอ่อนอิตาลีมาสร้างลอนดอน และเมืองต่างๆ

เงินจากอาณานิคมมากพอสร้างยุโรปได้จริง ประวัติศาสตร์เขาบอกเอง

แต่คนยุคนี้ไม่เอาแล้ว เข็ดแล้ว
อยากกลับไปสู่เป็นชาตินิยม แบบยุคนโปเลียน
ไม่เอาผู้อพยพ รัฐจะรีดภาษีไปเลี้ยงดูก็ไม่ไหวแล้ว
คนมันสู้

แนวคิดสิทธิมนุษยชน ก็มาจากแนวคิดคริสเตียน ช่วยคน
เจอโรฮิงยา อาฟริกา ก็ไปไม่เป็น เยอะเกินน้ำใจคริสเตียน
คริสเตียนในโลกความเป็นจริง กับโลกของผู้อพยพมุสลิม เจอกัน

ตอนหลังกลัวว่ามุสลิมจะยึดยุโรป เพราะประชากรมากถึงหนึ่งในสามของโลก


7. ประชานิยม แนวคิดว่ายุโรป เก่ง สามารถดูแลคนได้
- เช่น รวมเยอรมันตะวันออก รวมรับสมาชิกอดีตสหภาพโซเวียดจนอียูมี 28 ประเทศ เจอเศรษฐกิจแบบนี้ ทุนนิยมรับไม่ไหว

ยุโรปส่วนที่อ่อนแอมีเยอะ ที่เก่งแบบเยอรมันมีน้อย
นักยูเนียน โกลบอลลิสท์ อย่างเมอเคิลถูกไล่

ผลการเลือกตั้งทั่วยุโรป ฝ่ายขวา ชาตินิยมมาหมดครับ ยกเว้นมาครง ที่อาศัยว่าไม่มีคู่แข่งโดดเด่น

ได้มาเพราะ คนสนใจว่าหล่อ เปิดให้โอกาสสาวทุกรุ่น
ยุคนี้ นิยมกินต่างรุ่นกันเยอะ
จึงได้รับเลือก แกเป็นแนว globabist

ไม่มีใครพูดถึง human rights กันแล้ว ไม่มีเงินจ่าย
ยกเว้น NGO ไทย ที่รับเงินมาจากฝรั่ง ยังรับคำสั่งเดิม
ประชานิยมเป็นอย่างไร อ่านเวเนซูเอล่านะครับ

8. ระบบที่ทำลายการจ้างงาน และการมีงานทำ ทิ้งภาคอาหาร
- การจ้างงาน ที่เป็นทางการ ที่ทำลายงานชุมชน มาเห่อ outsource

งานถูกทำลายโดยโรบอทในอุตสาหกรรม
การย้ายฐานไปต่างประเทศ
การลงทุนในต่างประเทศแบบทรัมป์ว่า คนในประเทศจึงตกงาน

จ้างผลิตภายนอก
ระบบจ้างชัวคราว
ระบบจ้างงานเป็นชิ้น

ฝรั่งเศสเหลือภาคเกษตรเพียงหนึ่งเปอร์เซนต์ จ้างงานสองเปอร์เซนต์
สังคมจึงไม่มีเซฟตี้เนทตอนตกงาน
จน ว่างงานซีครับ

ฝรั่งเศสทำอุตสาหกรรม 20% ที่เหลือเป็นภาคบริการ แทบหมด
งานสายบริการนี้ว่างงานง่ายมาก

เกษตรไปได้เรื่อยๆแบบเดนมาร์กสบายมาก
รายได้ครึ่งหนึ่งของเดนมาร์กมาจากการเกษตร
และผลิตอาหารขาย อร่อยมากๆ ขายเยอรมันก็แทบหมดแล้ว

แต่แนวฝรั่งเศส ว่างงานเป็นช่วงๆ แบบทำงานห้างบ้านเรา งานไม่แน่นอน outsource ก็เยอะ รอค่าคนว่างงาน ไม่พอกินหรอก

เมืองไทยจงเรียนรู้ คิดถึงรัชกาลที่เก้านะครับ
ระวังพวกที่เห่อเทค เห่อขนอุยเพิ่งขึ้น จะเอาเทคลูกเดียว โดยไม่คิดถึงชีวิตคนและสมดุลของมนุษย์

ก่อนจะทำอะไรต้องคิดถึงชีวิตคนก่อนครับ คิดว่าคนมีงานไหม
พวกเห่อ.....หอย

9. การรับภาระประเทศสมาชิกที่อ่อนแอ และคนจนที่เพิ่มมากขึ้นทุกที
- อ่านจากเรื่องคนจนในอียูนะครับ มีตัวเลข คำอธิบายละเอียด

10. รัฐคิดต่างจากชาวบ้าน อุดมการณ์ ความเชื่อที่ต่างจากชีวิตคนธรรมดาของประเทศ
พวกไม่เข้าใจคนจนมีจริงครับ ผมไปทำงานอีสานสิบปี เข้าใจ
ว่าคนพวกนี้ที่บริหารประเทศเข้าใจคน ธรรมชาติของมนุษย์นะ มีอยู่จริง

คนแบบมาครง เข้าใจคนรวย เอาใจนายทุน เพราะ
โตมาแบบอีลีท อยู่ในสังคมของอีลีทตลอดชีวิต

มาครงเป็นคนปารีส มีความต่างระหว่างชาวปารีส และ non paris ชัดเจนมาก ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ชนชั้น ตัวก่อให้เกิดปฏิวัติฝรั่งเศสทุกครั้ง ความเป็นปารีส และความเป็นชาวปารีส คือ เอกลักษณ์

นายทุนมีอิทธิพลมาก จะลงทุนต้องอาศัยทุน
ทุนหนี เคลื่อนย้ายไปต่างประเทศได้ แบบเวเน จึงต้องเอาใจ
อยู่กับคนแบบไหนก็เข้าใจคนแบบนั้น ไม่ผิดอะไร

มาครงก็แบบเดียวกีน

ทุนกับคนเป็นปัญหามาช้านาน
คนกับควายความหมายก็ลึกล้ำ
กระฎุมพี กินแรง แบ่งชนชั้น
มารกซ์ จึงโกรธมาก

เขียนแบบ World class นะเนี่ย สถานการณ์ยุโรป เป็นแบบนี้แหละ

สมเกียรติ โอสถสภา
ความพังทลายของรัฐสวัสดิการสหภาพยุโรป ทำไมยุโรปจึงวุ่นจะเกิดการปฏิวัติใหม่ ความพังทลายของรัฐสวัสดิการสหภาพยุโรป ทำไมยุโรปจึงวุ่นจะเกิดการปฏิวัติใหม่ Reviewed by admin on 1:15 AM Rating: 5

No comments