สร้างประเทศไทยให้เป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ไม่ยาก

ประเทศไทยไม่ธรรมดานะครับ มีสำรองเงินตราระหว่างประเทศร่วม 200,000 ล้านเหรียญ น่าจะขึ้นระดับหนึ่งในสิบของโลกในไม่กี่ปี สำรองเงินตราคือตัววัดความมั่งคั่งของประเทศ

ประเทศนี้เอาเงินไปลงทุนในต่างประเทศมากกว่าที่ต่างประเทศมาลงทุนเมื่อปีที่แล้ว 3,000 ล้านเหรียญ

ที่จริงเรามีโครงการที่ลงทุนได้ต่อเนื่องมากมาย ให้ผลตอบแทนการลงทุนที่ดี

สนามบินจังหวัดใหญ่กำลังขยาย มีสนามบินของการบินพลเรือนที่สามารถขยายได้อีก 40 แห่งมั้ง ทำโรงผลิตเครื่องบิน ซ่อมเครื่องบินที่อู่ตะเภา ลงทุนด้านนี้ไม่ขาดทุน หุ้นการท่าขื้นจาก 40 เป็น 400 แล้ว นี่คือศูนย์กลางการบินของโลกแห่งหนึ่ง

เส้นทางเดินเรือท่องเที่ยวจากไทยไปพม่า กัมพูชา เวียดนาม จะดูดนักลงทุนมาจากทั่วโลก คิดถึงเรือ 10 ชั้นแบบ King of Scandinavia และเรือไซส์นี้แถวเดนมาร์กซีครับ จ้างคนทำงานอีก สร้างท่าเรือ เมืองท่าเรือได้เลย

สามารถสร้างมอเตอร์เวย์เชื่อมกรุงเทพกับภาคกลาง ลพบุรี นครสวรรค์ เปิดพื้นที่อีกเยอะ เก็บตังค์แบบใต้หวัน หรือทางด่วนของเรา

พื้นที่อุตสาหกรรมภาคตะวันออก ขยายได้อีกมาก นิคมอุตสาหกรรมคืนทุนทั้งนั้น

จะสร้างบ้าน ที่อยู่ อาคารพาณิชย์ ให้เพียงพอทั้งประเทศก็ได้ แบบที่ซัมซุงทำที่เกาหลี

เมืองใหญ่ของประเทศต้องการการลงทุน เช่น รถรางเบา ผังเมือง ที่อยู่ โคราช ขอนแก่น หาดใหญ่ อุดร เอาเงินจากกองทุนนี้มาทำ

ยังมีรถไฟสายต่างๆ

ระบบน้ำประปา ไฟฟ้า เมืองเอกลักษณ์

ต่อไปเป็นศูนย์ระดมเงินทุนไปทำโครงการแถวพม่าก็ได้ แบบที่เราทำสำเร็จที่ลาว

สร้างเมืองนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ ศิลปะแบบเกาหลี จีนก็ได้

จะทำเมืองอุตสาหกรรมใหม่แบบ cloud เมืองลอจิสติกส์ รถไฟฟ้า เมืองไอทีก็ได้ทั้งนั้น เอาเข้าตลาดหุ้น

ทำตลาดหุ้นไทยให้ใหญ่กว่านี้อีกสองเท่าตัว

ทำแบบจีน เกาหลี ใต้หวันครับ

แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาทำ จะทำอย่างไร ราชการทำไหวไหม ฝันไปหรือเปล่า
เมื่อ 15 ปีที่แล้ว ผมไปนั่งคุยกับรองประธานฝ่ายการบริหารและการเงินของบริษัทที่สร้างเมืองอินชอนของเกาหลี เมืองโอลิมปิกน่ะครับ เป็นเมืองวิจัยนวัตกรรม บริษัทมากมาย ศูนย์กลางแชโบล คุยกับคนนี้ดีกว่าคุยกับประธาน เป็นเรื่องโมเดลการเงินจริงๆ ภาคปฏิบัติจริงๆ

แล้วก็ไปเซี่ยงไฮ้ ไปนั่งคุยกับคนทำหน้าที่นี้ที่สร้างเมืองแฝดเซี่ยงไฮ้ แบบเดียวกับเมืองแฝดของโซลที่เกาหลี

แล้วไปนั่งรถดูมอเตอร์เวย์ของใต้หวัน เก็บเงินเป็นระยะ ไปนอนที่มหาวิทยาลัยที่อยู่ติดกับนิคมไฮเทค ผลิตเลนส์ขายอันดับต้นๆของโลก นักศึกษา อาจารย์ไปทำแล็บที่นั่น มีรายได้ อาจารย์ก็มีงบวิจัย รวยกันทั้งมหาวิทยาลัย เรียนของจริงๆ ผลิตจริง ได้เงินจริง ขายได้จริง

มันอยู่ที่ mindset และวิธีคิด

ในเมื่อมีตลาดทุนระดับ 16 พันล้านเหรียญ ก็ทำโครงการขึ้นมา ให้ต่อเนื่องสักยี่สิบปี ก็เป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจได้แล้วครับ เศรษฐกิจจะโตปีละ 10% ก็ได้ เริ่มแล้ว แรงเหวี่ยงแรงมากๆ

ทุกโครงการเอาเข้าระดมทุนในตลาด แบบที่จีน เกาหลีทำ

หลักก็เหมือนบริษัทบ้านจัดสรรน่ะแหละ ทำโครงการ ขายโครงการแรกได้ ก็เอาเงินไปลงทุนโครงการต่อไป ขายโครงการที่สองหมด เริ่มโครงการที่สาม แป๊บเดียวก็สร้างได้เป็นร้อยโครงการ จากเงินลงทุนก้อนเดียว ขยายได้เป็นหลายพันเท่า

ภาครัฐก็เหมือนกัน รัฐบาลลงทุนทำมอเตอร์เวย์ ทำรัฐวิสาหกิจ โครงการเสร็จเอาเข้าตลาด ระดมทุน ทำโครงการต่อๆไป เศรษฐกิจก็ขยายตัวไม่หยุด คนมีรายได้ ค้าขายดีมาก แข่งกับโลกได้ ทุนเพิ่มต่อเนื่อง การศึกษาแกร่งขึ้น เด็กเรียนไม่ต้องใช้เงิน

รัฐบาลไม่ต้องมีหนี้มาก ไม่ติดกับดักรัฐราชการ ไม่ติดกฏราชการ รัฐยังมีรายได้มาช่วยราชการ ประชาชนภาคเกษตรด้วย

เศรษฐกิจขยายไม่หยุดเป็นสิบๆปี ไม่ต้องพึ่งงบประมาณ ไม่ต้องเก็บภาษีประชาชนไปลงทุน

คนมีความสามารถก็มีรายได้สูง รัฐได้ภาษี ต่างประเทศเข้ามาร่วมทุน อยู่ยังงี้เขาไม่รู้จะมาทำอะไร

นี่คือโมเดลที่เขาทำกันมาร่วมยี่สิบปีแล้ว

ลดระบบรัฐราชการ สร้างระบบเอกชนขื้นมา

ทำแบบนี้เรียกว่าเติบโตจากภายใน

เริ่มแบบนี้ก็มีของจะส่งออก แข่งได้ มีทุนมาก ไม่ต้องพึ่งธนาคาร เก็บภาษี พึ่งตลาดหลักทรัพย์ ทุนใน ทุนนอกแทน

คล่องตัว เกิดเทคใหม่ นักเรียนมีงานทำ อาจารย์รวย มีเมืองใหม่ คนมีบ้าน เศรษฐกิจโต เป็นมหาอำนาจเศรษฐกิจ ทรัพย์สินประเทศได้เอามาใช้ให้เป็นทุน มีเงินช่วยคนทั้งประเทศ

ผมจึงชอบที่รัฐบาลตั้ง futures fund ขึ้นมา ต่างประเทศตาโตกันมาก รู้ว่าไทยจะวิ่งในลู่จีน ใต้หวัน เกาหลี เศรษฐกิจจะขยายตัว

แต่ต้องอธิบายให้คนรู้เรื่อง มั่นใจ

พรรคเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ไปคุยกับเกาหลี ใต้หวัน จีน ดูงานตรงนี้แหละ นี่คือ mindset วิธีคิด วิธีบริหารเงิน สร้างประเทศ จะได้ไม่ต้องตีกัน

มันพิสูจน์แล้วครับ

ประเทศไทยอยู่ในมือคนหนุ่ม สาว คนไทยเก่งมาก ผมเชื่อว่าเราทำได้

ทำเสร็จก็มีเงินเลี้ยงคนชรานะครับ

สมเกียรติ โอสถสภา