รัสเซียจับมือจีนนุ๊คดอลล่าร์ ก่อนที่จะชักม้าออกศึกกับกองทัพสหรัฐอย่างเต็มตัว



ทรัมป์ใช้เวลาไม่ถึง 100 วัน ในทำเนียบขาวที่จะพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนเห็นว่าเขาเป็นนักลวงโลก

ทรัมป์เดินตามเกมทหารที่โอบามาวางเอาไว้อย่างเคร่งครัด โดยที่โอบามาสืบทอดนโยบายทางทหารมาจากพุ่มไม้น้อย บิล และพุ่มไม้ใหญ่ตามลำดับที่ต่างรับใช้รัฐบาลเงา (Deep State) ทุกคนอย่างไม่มีข้อแม้ โดยที่ต้องทำสงครามอย่างต่อเนื่อง เพื่อล้มทุกประเทศจนกว่าไม่มีประเทศใดสามารถดำเนินนโยบายต่างประเทศเป็นอิสระจากวอชิงตัน ดีซีได้

(ดูไทมไลน์ของการก่อสงครามของสหรัฐที่มีอย่างต่อเนื่องทุกปี นับตั้งแต่ก่อตั้งจักรวรรดิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังพุ่มไม้พ่อรับตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 1989 https://en.wikipedia.org/…/Timeline_of_United_States_milita…)

ยังเหลืออีก 4 ประเทศหลัก ที่รัฐบาลเงาสหรัฐต้องการจัดการคือรัสเซีย อิหร่าน จีนและเกาหลีเหนือที่ไม่ยอมก้มหัวให้วอชิงตัน ดีซี

ทรัมป์ไม่ได้เป็นคนนอกที่ต้องการเข้ามาโล๊ะอำนาจของพวกรัฐบาลเงา แต่เขาเป็นคนที่รัฐบาลเงาสนับสนุนให้เข้าไปทำงานในทำเนียบขาว ทรัมป์จึงเป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่าย แต่ทำฟอร์มว่า เขาแน่ เขาเก่ง

ทรัมป์เปลี่ยนรัฐบาลของเขาให้เป็นรัฐบาลทหาร และมอบอำนาจการบริหารงานทางทหารและความมั่นคงให้ฝ่ายทหารไปหมด อยากทำอะไรทำไป แล้วค่อยรายงานให้เขาทราบทีหลังได้

ทรัมป์เลือกที่จะทำงานที่เขาถนัดอย่างเดียว คือเขียนทวิทเตอร์ แค่นี้เขาก็มีความสุขแล้ว

ดูรายชื่อครม. ของทรัมป์แล้วไม่ต่างจากรัฐบาลทหารของพม่าในอดีตเลย

1. รัฐมนตรีว่าการกลาโหม หรือเพนตากอนคือนายพล James Mattis ผู้มีฉายานายพลหมาบ้าที่มีประสบการณ์โชกโชนในการทำสงครามในตะวันออกกลาง และมีอุดมการณ์ทางทหารสายเหยี่ยวที่ต้องการล้มอิหร่าน รัสเซีย จีนและเกาหลีเหนือ

2. นายพล H R McMaster เป็นที่ปรึกษาสภาความมั่นคง (National Security Council) หรือฝ่ายเสนาธิการทางทหารที่ดูแลการวางแผนทางทหารหรือความมั่นคงของสหรัฐทั้งหมด McMaster ใช้นโยบายทางทหารอย่างเดียวในการแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศ การทูตเอาไปไกลๆ

3. นายพล John Kelly เป็นรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ

4. นาย Ryan Zinke อดีตนายทหารจากหน่วยซีลของกองทัพเรือสหรัฐเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงภายใน

5. นาย Mike Pompeo เป็นผู้อำนวยการซีไอเอ และอดีตเป็นนายทหารจากกองทัพบก

ทรัมป์เล่นละครเป็นตุ๊กตาหุ่นที่ทำเนียบขาวไป เพื่อแลกกับความมั่นคงของอาณาจักรธุรกิจทรัมป์หรือไม่ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่ครม.ที่เป็นนายทหารของทรัมป์จะเดินหน้าปิดล้อมรัสเซีย และจีนตามเกมทหารที่วางเอาไว้มานานแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปิดล้อมจีนที่เริ่มประกาศอย่างเป็นทางการโดยโอบามาในปี 2011 ในนโยบายปักหมุดในเอเชีย (Pivot to Asia) โดยที่สหรัฐจะกลับมาเคลมความเป็นมหาอำนาจในภูมิภาคแปซิฟิคอีกครั้ง โดยมีกองทัพเรืออามาร์ดาเป็นหัวหอก

สถานการณ์ของวราดิเมียร์ ปูติน และสี จิ้นผิงที่ถูกเพนตากอนปิดล้อมในเวลานี้เหมือนกับพระเจ้าตากที่ติดอยู่ในกรุงศรีอยุธยาในสมัยที่ถูกพม่าปิดล้อมในปี ค.ศ.1767 พระเจ้าตากไม่ยอมตาย หรือไม่ยอมติดกับดักในกรุงศรีฯ จึงได้เรียกพรรคพวกนักรบ โดยมีทหารโปรตุเกสคู่ใจร่วมอยู่ด้วยให้กินอาหารมื้อสุดท้ายด้วยกัน แล้วทุบหม้อข้าว โดยประกาศว่า ถ้าตีฝ่าวงล้อมทหารพม่าไม่ได้ ก็ขอตายในสนามรบ ปรากฎว่าพระเจ้าตากตีฝ่าวงล้อมพม่าได้สำเร็จในจุดที่พลิกผันนั้น อันนำไปสู่การสร้างชาติใหม่ผ่านการตั้งกรุงธนบุรีเป็นราชธานี

ปูตินและสีกำลังทุบหม้อข้าว ด้วยการดั๊มพ์ดอลล่าร์ และเปลี่ยนดอลล่าร์เป็นทอง ก่อนที่จะชักม้าออกศึกเพื่อเผชิญหน้าทางทหารกับกองทัพสหรัฐอย่างเต็มตัว

ทนง ขันทอง
รัสเซียจับมือจีนนุ๊คดอลล่าร์ ก่อนที่จะชักม้าออกศึกกับกองทัพสหรัฐอย่างเต็มตัว รัสเซียจับมือจีนนุ๊คดอลล่าร์ ก่อนที่จะชักม้าออกศึกกับกองทัพสหรัฐอย่างเต็มตัว Reviewed by admin on 1:24 AM Rating: 5

No comments