เมื่อความจริงปรากฏกรณีของนายฮาคีม ก่อเกิดเป็นกระแสรักชาติที่กว้างขวางขึ้น #SaveThailand
ในขณะที่ขบวนการขี้ข้าต่างชาติที่สมคบกับต่างชาติปลุกกระแสบอยคอร์ดประเทศไทยเพื่อกดดันศาลไทยให้ปล่อยตัวนายฮาคีมตามอำเภอใจ เพื่อข่มเหงน้ำใจรัฐบาลและประชาชนไทย เพื่อกดดันให้อยู่ในอำนาจดั่งเป็นประเทศราช ถึงขนาดติดแฮชแท็กว่า #BoycottThailand บ้าง หรือ #SaveHakeem บ้าง
คนไทยก็นำความจริงออกมาแฉโพยถึงขบวนการขี้ข้าต่างชาติและการสมรู้กันกระทำการบ่อนทำลายประเทศไทยที่น่าชิงชังรังเกียจกันอย่างกว้างขวาง
จนกระทั่งสถานทูตต่างประเทศที่เกี่ยวข้องก็ต้องยอมรับความจริงอันเป็นเบื้องหลังของเรื่องนี้ และเมื่อความจริงปรากฏต่อประชาชนไทยก็ได้ปลุกกระแสรักชาติอย่างกว้างขวาง ต้านและตีโต้การปลุกกระแสบอยคอตอย่างมีพลังยิ่ง และได้มีการติดแฮชแท็กว่า #SaveThailand ขยายวงไปอย่างกว้างขวางด้วย
นี่คือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยของเรานั้นครั้นถึงคราวคับขันและรู้ว่าถูกข่มเหงย่ำยีและทำร้ายชาติบ้านเมืองของเราแล้ว ต่อให้ทะเลาะเบาะแว้งขัดแย้งกันเท่าใด ในที่สุดคนไทยก็จะสามัคคีกัน ร่วมต่อสู้ ร่วมเป็นร่วมตาย เพื่อรักษาชาติบ้านเมืองไว้
จนเป็นที่มาของคำพังเพยว่า “กรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดี” แม้กระทั่งในยามที่คนขายชาติ คนทรยศชาติ คนปล้นชาติ แทรกซึมเข้าไปอยู่ในกลไกแห่งอำนาจจำนวนมาก ก็ไม่สามารถหยุดยั้งความคิดจิตใจที่รักชาติบ้านเมืองของประชาชนได้
วันนี้เสียงสาปแช่งทั้งสิบทิศที่คนเหล่านี้กระทำต่อชาติบ้านเมืองกึกก้องทั่วแผ่นดิน และคงได้ยินไปถึงเทพยดาอารักษ์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ปกปักรักษาบ้านเมืองอย่างไม่ต้องสงสัย สิ่งที่คนไทยพูดกันเสมอว่าแผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ พระสยามเทวาธิราชมีจริง ยังเป็นจริงอยู่ทุกกาล
วิบากกรรมของการทำร้ายบ้านเมืองและประชาชนเป็นอนันตริยกรรม ไม่ต้องรอถึงชาติหน้า วิบากกรรมนั้นย่อมสนองโดยไม่ต้องสงสัย
กรณีของนายฮาคีมนั้น ความจริงได้เปิดเผยให้คนไทยได้รู้กันทั่วจนสื่อขายชาติใด ๆ หรือสื่อนักล่าใด ๆ ก็ไม่สามารถบิดเบือนไปได้อีกแล้ว ความจริงในเรื่องนี้คือ
1. ประเทศอังกฤษ ประเทศออสเตรเลีย และประเทศบาห์เรนนั้นเป็นพรรคพวกเดียวกัน และทำงานประสานกันในหลายเรื่อง แม้กระทั่งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับขบวนการไอซิสในตะวันออกกลาง และในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก ดังนั้นอะไรที่เกี่ยวข้องในขบวนการนี้ประชาชนจึงเห็นได้ง่าย เพราะความจริงเกี่ยวกับความสัมพันธ์นี้ได้ถูกเปิดเผยต่อชาวโลกมาระยะยาวนานแล้ว
2. ประเทศบาห์เรนได้ออกหมายจับนายฮาคีมเกี่ยวกับการประท้วงต่อต้านรัฐบาลบาห์เรน ในขณะที่ประเทศออสเตรเลียได้รับนายฮาคีมไว้ในฐานะเป็นผู้ลี้ภัย และองค์การที่เกี่ยวข้องก็ได้ยอมรับให้นายฮาคีมเป็นผู้ลี้ภัยแล้ว ซึ่งนายฮาคีมก็ได้พำนักอยู่ในออสเตรเลียต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 4 ปีแล้ว โดยที่บาห์เรนและออสเตรเลียไม่เคยคิดที่จะจับกุมหรือส่งตัวนายฮาคีมกลับไปประเทศบาห์เรนแต่ประการใด
3. จู่ ๆ ออสเตรเลียก็ได้ส่งนายฮาคีมรวมมากับทีมฟุตบอลที่มาแข่งขันในประเทศไทย และมีไอ้โม่งจากที่ไหนก็ไม่รู้แจ้งข่าวให้บาห์เรนทราบ และในขณะเดียวกันรัฐบาลออสเตรเลียก็ได้แจ้งตำรวจไทยให้ทำการจับกุมนายฮาคีมตามหมายจับของประเทศบาห์เรน โดยตำรวจสากลได้ออกหมายแจ้งให้จับกุมมายังตำรวจไทยด้วย
ดังนั้นตำรวจไทยจึงต้องจับตามพันธะกรณีที่ได้เป็นภาคีความร่วมมือเกี่ยวกับตำรวจสากล
4. เมื่อมีการจับกุมแล้ว ตามกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายของประเทศไทยจะต้องนำตัวขึ้นสู่ศาลเพื่อพิจารณาคำขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งบาห์เรนก็ขอให้ส่งไปยังประเทศบาห์เรน และออสเตรเลียก็ขอให้ส่งไปยังออสเตรเลียโดยอ้างฐานะความเป็นผู้ลี้ภัยและการมีถิ่นฐานพำนัก ซึ่งต้องเป็นไปตามนั้น
5. ในระหว่างที่คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลไทย องค์กรขี้ข้าต่างชาติหลายองค์กรที่เป็นข่าวดังสนั่นหวั่นไหวมาช้านานแล้วว่ารับเงินต่างชาติมาบ่อนทำลายประเทศไทยก็ได้โหมกระแสเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ปล่อยนายฮาคีมโดยไม่มีเงื่อนไข และขยายผลของการเคลื่อนไหวนั้นออกไปยังต่างประเทศด้วย โดยมีสื่อของอังกฤษอย่างน้อยสองสำนักผสมโรงตีฆ้องร้องป่าวอย่างเอิกเกริก
6. ขบวนการขี้ข้าต่างชาติและออสเตรเลียได้แสดงท่าทีก้าวร้าวคุกคามอย่างหนักหน่วง กระทำราวกับว่าประเทศไทยเป็นประเทศราช กดดันให้ส่งนายฮาคีมไปยังประเทศออสเตรเลีย โดยมิได้เคารพต่ออำนาจศาลไทยแต่ประการใด รวมทั้งการเรียกทีมฟุตบอลที่มาซ้อมกลับประเทศ ทั้ง ๆ ที่เป็นความผิดของออสเตรเลียเองฝ่ายเดียวโดยแท้
เมื่อความจริงปรากฏเช่นนี้จึงสร้างความไม่พอใจอย่างกว้างขวางให้กับคนไทยโดยทั่วไป ทำให้หวนรำลึกถึงการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทยทุกกรณีที่ออสเตรเลียกระทำต่อประเทศไทย ความอดทนของคนไทยก็มีความจำกัด
ดังนั้นคนไทยจึงลุกฮือขึ้นพิทักษ์รักษาชาติบ้านเมือง ก่อเกิดเป็นกระแสรักชาติที่กว้างขวางขึ้น
ซึ่งมีเรื่องต้องตั้งข้อสังเกตด้วยว่า นายฮาคีมนั้นเป็นมุสลิมชีอะห์ซึ่งเป็นคนละพวกคนละฝ่ายกับออสเตรเลีย ซึ่งอยู่ในเครือข่ายบริวารของมหาอำนาจ เหตุไฉนจึงรับเอานายฮาคีมมาพำนักอยู่ในออสเตรเลีย จึงทำให้เกิดความสงสัยว่านั่นเป็นเพราะมุ่งหวังจะใช้ประโยชน์จากนายฮาคีมในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ซึ่งทำให้พี่น้องมุสลิมนิกายชีอะห์ต้องจ้องจับตาอย่างใกล้ชิดเช่นเดียวกัน
กระแส “Save ประเทศไทย” “Save Thailand” คือกระแสรักชาติที่สอดคล้องกับสถานการณ์ในบัดนี้ ที่คนไทยทุกคนจะต้องตื่นตัวขึ้นและมีความพร้อมมากขึ้นในการพิทักษ์รักษาบ้านเมืองของเราให้สงบเรียบร้อยและร่มเย็นเป็นสุขสืบไป
###
แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับประเด็นออสเตรเลีย - บาห์เรนเกี่ยวกับนาย Hakeem Al Araibi
1. ก่อนหน้านี้ประเทศไทยไม่เคยรับรู้ถึงกรณีของนาย Hakeem และไม่มีอคติต่อเขา อันที่จริงเราจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องในประเด็นนี้หากเราไม่ได้รับการแจ้งเตือนสีแดงจากหน่วยงานตำรวจสากลของออสเตรเลียและบาห์เรนขอให้ทางการจับกุมและส่งผู้ร้ายข้ามแดน
2. ใช้เวลาหลายวันหลังจากการมาถึงของ Mr. Hakeem ก่อนที่ทางการออสเตรเลียจะแจ้งให้เราทราบว่ามีการยกเลิกการแจ้งเตือนสีแดง เมื่อถึงเวลานั้นการดำเนินคดีทางกฎหมายในประเทศไทยเกี่ยวกับนาย Hakeem ได้เริ่มขึ้นแล้วและไม่สามารถยกเลิกได้
3. ขณะนี้คดีอยู่ภายใต้ขอบเขตของศาลยุติธรรม ในการดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายฝ่ายบริหารไม่สามารถแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม นี่เป็นหลักการที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลโดยทุกประเทศรวมถึงออสเตรเลีย
4. เราขอให้ทุกคนงดเว้นอคติต่อคำตัดสินของศาลและกระโดดไปก่อนข้อสรุปที่ประเทศไทยจะส่งผู้ร้ายข้ามแดนนายเฮกเก้มกลับไปยังบาห์เรน ศาลจะพิจารณาคดีนี้อย่างละเอียดและเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายและหลักฐานที่ให้รวมถึงหมายจับของบาห์เรนและคำสั่งศาลสำหรับนาย Hakeem ซึ่งได้รับการตัดสินภายใต้กฎหมายของบาห์เรน ตามคำร้องขออย่างเป็นทางการของพวกเขาบาห์เรนได้จัดเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้กับเรา สำนักงานอัยการสูงสุดได้พิจารณาเอกสารดังกล่าวแล้วและพบว่าเป็นไปตามเงื่อนไขทางกฎหมายที่จะยื่นต่อศาล ดังนั้นสำนักงานอัยการสูงสุดจึงได้ยื่นคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับศาลยุติธรรมเพื่อพิจารณาต่อไป
5. ในขณะเดียวกันศาลไทยพร้อมที่จะพิจารณาข้อเท็จจริงและหลักฐานทั้งหมดที่นำเสนอโดยทนายความของนาย Hakeem
6. ประเทศไทยไม่ได้รับผลประโยชน์ใด ๆ จากการที่คุณ Hakeem ควบคุมตัว แต่ในฐานะประเทศที่มีอำนาจหน้าที่และข้อผูกพันทางกฎหมายกับประชาคมระหว่างประเทศประเทศไทยพบว่าตัวเองอยู่ในช่วงกลางของคดีที่เกี่ยวข้องกับสองประเทศที่แข่งขันกันเพื่อควบคุมตัวนาย Hakeem ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ประเทศไทยไม่มีทางเลือกอื่นที่ถูกกฎหมาย แต่
(1) ให้ความร่วมมือตามกฎหมายและ
(2) แนะนำว่าทั้งสองประเทศทั้งเพื่อนที่ดีของประเทศไทยและเพื่อนที่ดีด้วยกันพูดคุยกันเพื่อสังคายนา ปัญหาของพวกเขาและหาทางแก้ปัญหาของตัวเองแทนที่จะพยายามหาทางแก้ปัญหาทางอ้อมจากประเทศไทยที่มีส่วนร่วมในกรณีนี้โดยบังเอิญเท่านั้น
7. เราเชื่อว่าเรามีสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมายที่จะกระตุ้นให้ออสเตรเลียและบาห์เรนพูดคุยกันและหาทางออกที่ตกลงร่วมกัน ไม่ว่าทางออกนั้นจะเป็นเช่นไรประเทศไทยก็พร้อมที่จะสนับสนุนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นที่พอใจร่วมกัน (win-win) สำหรับทุกคน
8. ประเทศไทยหวังว่าออสเตรเลียและบาห์เรนจะมีความปรารถนาดีที่จะทำงานร่วมกันอย่างจริงจังเพื่อหาทางออกให้กับปัญหานี้ ด้วยวิธีนี้เราเชื่อว่าผู้ที่ติดตามคดีนี้ในประเทศไทยและทั่วโลกจะยกย่องทั้งออสเตรเลียและบาห์เรนสำหรับความพยายามของพวกเขา
ไพศาล พืชมงคล
7. เราเชื่อว่าเรามีสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมายที่จะกระตุ้นให้ออสเตรเลียและบาห์เรนพูดคุยกันและหาทางออกที่ตกลงร่วมกัน ไม่ว่าทางออกนั้นจะเป็นเช่นไรประเทศไทยก็พร้อมที่จะสนับสนุนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นที่พอใจร่วมกัน (win-win) สำหรับทุกคน
8. ประเทศไทยหวังว่าออสเตรเลียและบาห์เรนจะมีความปรารถนาดีที่จะทำงานร่วมกันอย่างจริงจังเพื่อหาทางออกให้กับปัญหานี้ ด้วยวิธีนี้เราเชื่อว่าผู้ที่ติดตามคดีนี้ในประเทศไทยและทั่วโลกจะยกย่องทั้งออสเตรเลียและบาห์เรนสำหรับความพยายามของพวกเขา
6 กุมภาพันธ์ 2019 ฉบับอัพเดท
###
เมื่อความจริงปรากฏกรณีของนายฮาคีม ก่อเกิดเป็นกระแสรักชาติที่กว้างขวางขึ้น #SaveThailand
Reviewed by admin
on
12:35 AM
Rating:
No comments