ตีแขกก่อนตีงู มาเลเซียเสนอใช้เงินตราสกุลเดียวกันในภูมิภาคเอเชียตะวันออก

สิ่งอย่างหนึ่งที่ไทยควรห่างจากเรื่องนี้ คำพังเพย "ตีแขกก่อนตีงู" ยังคงใช้ได้ทุกยุคสมัย

นายมหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้เสนอใช้เงินตราสกุลเดียวกันสำหรับทำการค้าระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกแทนดอลลาร์สหรัฐ โดยนายมหาเธร์อ้างเหตุผลว่าดอลลาร์สหรัฐไม่เสถียร

นายมหาเธร์กล่าวต่อที่ประชุม อนาคตของเอเชีย ที่กรุงโตเกียว เมื่อวานนี้ว่า เงินตราสกุล(ใหม่)เดียวกันที่ใช้ในกลุ่มเอเซียตะวันออกนี้ใช้เพื่อการนำเข้าและส่งออกในภูมิภาคแต่ไม่เกี่ยวกับการทำธุรกรรมของแต่ละประเทศ

ถ้าพวกท่านต้องการร่วมแรงกัน ก็ควรเริ่มด้วยการใช้เงินตราสกุลเดียวกัน แต่ไม่ใช่สำหรับใช้ภายในประเทศ ใช้เพื่อการค้าขายระหว่างกันเท่านั้น เวลานี้พวกเราต้องอ้างอิงกับดอลลาร์สหรัฐ แต่เงินดอลลาร์ไม่เสถียร ดังนั้นเงินตราที่เสนอควรอ้างอิงมูลค่าตามทองคำ เพราะทองคำเสถียรกว่ามาก

***********************************

สิ่งที่ผมเขียนให้อ่านกันนี่อย่าเอาไปคิดลึกลงไปถึงทฤษฎีปริวรรตเงินตรานะครับ เพราะมันเป็นอะไรที่มีแฟกเตอร์ปลีกย่อยมากมาย ผมเขียนให้อ่านกันในระดับผู้เสพข่าวในตุ๊กตาของค่าเงินของประเทศรอบบ้านเราหรือสภาวะของยูโร ดอลลาร์

เรื่องนี้ผมเชื่อว่าทีมงาน ธ.แห่งประเทศไทยและทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลคงนั่งหัวเราะเมื่ออ่านข่าวกันแล้ว เพราะริงกิตนั้นตกฮวบลงมาหลายปีแล้ว เคยลงมาระดับ 6 บาทกว่าต่อริงกิตจากที่ก่อนนั้นเคยแข็งระดับ 11 บาทกว่า เวลานี้วันนี้ก็เพียง 7 บาทกว่าเท่านั้น

เรื่องนี้คนได้ประโยชน์คือมาเลย์ แต่เราไม่เดือดร้อนอะไรที่จะไปขนขวายหาเงินกลาง เงินบาทไทยนั้นใช้ได้หลายประเทศในกลุ่มอาเซียน ผมไปประเทศรอบบ้านเราผมไม่ต้องแลกเงินเลย แบ็งค์ 20 ของเราศักดิ์สิทธิ์มาก รับหมดแม้กระทั่งแผงลอยแบกะดินตามตลาดสดชอบแบงค์ 20 ของเรามากกว่าเงินในประเทศของเขาเสียอีก

และเวลานี้เงินบาทแข็งแกร่งมากในระดับยืนอันดับหนึ่งในบรรดาตลาดเกิดใหม่ (emerging market) มาหลายเดือนแล้ว เดือนนี้ก็แข็งค่าขึ้นอีก 0.3% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ เอาเพียงปีเดียวเงินบาทกับยูโร ก็ขยับตัวมาเกือบ 4 บาท เพราะวิกฤติเงินยูโรนั้นหนักเอาเรื่อง

เรื่องนี้ไม่ต่างกับการที่ประเทศต่างๆ ในกลุ่มที่ใช้เงินยูโรที่ต่างก็โหนความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจเยอรมัน และเยอรมันนั้นก็เป็นตัวยืนเอาส่วนแบ่งของความแข็งแกร่งให้ค่าเงินยูโรไม่รูดไปมากกว่าที่ควรจะเป็นจากการเจริญลงฮวบๆ ของประเทศกลุ่มยุโรปใต้ ถ้าสมมุติว่ากลับไปใช้เงินแยกกันเหมือนเดิมคงได้เห็นหลายประเทศในยุโรปค่าเงินรูดลงไปไม่ต่ำกว่า 25-30% ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา

สิ่งหนึ่งที่ค่าเงินเดียวกันหรือเงินใหม่ในความคิดของมหาเธร์จะทำให้เกิดความได้เปรียบ สิ่งแรกที่ง่ายที่สุดที่ทุกคนนึกออกทันทีคือการไม่ต้องเสียค่าพรีเมียมในการประกันค่าเงินในการค้าขาย

สมมุติว่าค่าเงินรูดในช่วงที่สัญญายังไม่จบ เงินยังไม่เคลียริ่ง ก็ไม่เดือดร้อนอะไร แต่สำหรับไทยแล้วในเวลานี้คงได้แต่เป็นผู้หาบให้คนอื่นนั่ง คงไม่ใช่นั่งสบายๆ โดนคนอื่นออกแรงหาบเหมือนมาเลย์และอินโดนีเซียที่ค่าเงินรูดและสวิงอยู่ไม่น้อย

ในช่วงสามปีที่ผ่านมามีการล้มหายตายจากของธุรกิจเอกชนของมาเลย์และอินโดจากการรูดของค่าเงินมีไม่น้อยเลย ไม่ต่างกับไทยที่เคยโดนมาเมื่อครั้งที่เรามีปัญหาค่าเงิน และถ้าจะดูไปแล้วในกลุ่มอาเซียนนั้นคนที่จะช่วยเราหาบนั้นคงไม่มีใครมีค่าเงินที่แข็งแกร่งเท่าเงินบาทของไทยในชั่วโมงนี้

และอีกอย่างคือการค้าขายในกลุ่มนั้นอดไม่ได้ที่ต้องมีจีนเข้ามาเอี่ยวด้วย ผมเชื่อว่าจีนเอาด้วยอยู่แล้วถ้าอะไรสามารถตัดงาเงินดอลล่าร์ได้ แต่สหรัฐนั้งคงไม่แฮ็บปี้สักเท่าไรและคงทุบได้ก็ทุบแบบไม่ต้องคิดมากเลย และปีนี้ไทยเป็นประธานอาเซียน เรื่องนี้คงขว้างงูไม่พ้นคอ ผมคิดว่าเรากินอิ่มนอนหลับในบ้านเราน่าจะสุขแล้ว อย่าไปยุ่งกับความคิดนี้ดีที่สุด การเป็นศัตรูหรือทำให้สหรัฐไล่ทุบนั้นไม่ใช่ความคิดที่ดี

ผมถึงบอกว่าคำพังเพย "ตีแขกก่อนตีงู" ยังคงใช้ได้ทุกยุคสมัย ผมเชื่อว่าคนเก่งๆ ในทีมเศรษฐกิจของเราคงหัวเราะเมื่ออ่านข่าวนี้

Pat Hemasuk