การศึกษาไทยไม่ไปไหน...เหมือนเดิม
พาดหัวข่าวในหนังสือพิมพ์สัปดาห์นี้พูดถึงการศึกษาไทยที่ยังดีไม่พอ (ซอฟท์ๆ ของคำว่าล้มเหลว)
ในฐานะที่ผมอยู่วงการการศึกษามานานพอสมควร ก็อยากจะฝากบอกทุกๆ ท่านว่าระบบไม่ดีเพราะคนทุกคนมีส่วนเกี่ยวข้องครับ แต่ทุกคนในบ้านเราก็จะชอบชี้นิ้วโทษคนนู้นคนนี้ว่าที่มันเป็นแบบนี้ก็เป็นเพราะระบบการศึกษาบ้าง ครูบ้าง....blah blah...ที่จริงทุกคนมีส่วนครับ เรามาลองดูวงการสอนภาษาอังกฤษเป็นกรณีศึกษาว่าทำไมถึงล้มเหลว
1. กระทรวงกับนักการเมืองที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา....กระทรวงได้เงินเยอะที่สุดหนึ่งกระทรวงของประเทศไทย....แต่เงินไปไหน...หายไปกับ corruption และโครงการที่ไม่ได้ตอบโจทย์ที่แท้จริง .... ปัญหาของวงการสอนภาษาอังกฤษคือ ครูน้อยไปเด็กจึงเรียนกัน 50 คนต่อห้อง ครูดีๆ น้อยไปเด็กจึงไม่ได้การศึกษาที่ดี .... แต่ครูกลับเป็นข้าราชการที่หนี้สินเยอะสุด!!??
เงินเป็นพันๆ ล้านควรจะเอามาแบ่งครูไหมครับไม่ใช่เอาไปซื้ออุปกรณ์และตึกและเอาเงินไปให้ต่างชาติเพราะต่างชาติมาสอนเราแป๊บๆ มันก็ไป ... แต่ครูไทยก็ยังเหมือนเดิม รัฐบาลควรเลิกทุ่มเงินไปที่วัตถุสิ่งของและตึกและชาวต่างชาติ และทุ่มเงินไปที่ครูไทยและการพัฒนาครูไทยอย่างแท้จริง
ผมเคยทำโรงเรียนรัฐ ผมก็ออกเพราะเงินไม่พอกินพอใช้ และเกียรติของการเป็นครูแบบความคิดสายเก่าไม่สามารถเอาไปแลกเป็นค่าผ่อนบ้านค่าใช้จ่ายของผมครับ
2. ครู...ในฐานะที่เป็นครูด้วยกัน ผมก็ต้องยอมรับว่าขนาดตัวผมที่ทำอะไรมาเยอะมากที่จะช่วยคนไทยให้พูดภาษาอังกฤษได้เยอะขึ้นและดีขึ้น... ก็ยังไม่สามารถที่จะมาพลิกสถานการณ์ได้ (พยายามต่อไป).... แต่ปัญหาครูที่เจอในวงการสอนภาษาอังกฤษคือ ครูดีๆ เก่งๆ ที่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษที่ดีในบ้านเรายังมีน้อย สอนภาษาอังกฤษจากตำราเพราะตัวเองยังใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตไม่เก่งหรือไม่ได้เลย
ครูต้องพัฒนาตัวเองตลอดเวลาไม่ใช่ว่า มี smart phone แล้วแต่ยังสอน juice เป็นจุ๊ย สอนแต่ตำราเก่าๆ น่าเบื่อทั้งๆ ที่มีบทเรียนภาษาอักฤษสนุกๆ ในเน็ตเยอะมาก (Chris Delivery / CAT English / Mahidol Click 555)
ส่วนครูฝรั่งจำนวนมากก็ไม่ได้เป็นครูที่ดีขนาดนั้นเพราะหลายๆ คนเป็นแค่ฝรั่งที่อยากอยู่ไทย ไม่รู้จะทำอะไรกินก็สอนภาษาอังกฤษกันไป คนไทยก็ชอบตัดสินคนที่เปลือกนอกเสียด้วย เป็นฝรั่งใส่สูท เป็นครูไทยมีแค่ใบปริญญาก็จ้างแล้วโดยไม่ได้มีองค์ความรู้ที่ดีขนาดนั้น......ครูดีๆ มีน้อยเพราะคนที่องค์ความรู้ดีไม่อยากมาสอนเพราะเงินน้อย
ดังนั้นรัฐบาลและสถาบันต่างๆ ห้ามงกกับครู ต้องจ่ายเงินให้เขาเยอะๆ แต่ครูในยุคนี้ก็ต้องพัฒนาตัวเองให้มาก เพื่อทำให้นักเรียนได้ 4 ใจไปคือ เข้าใจ สนใจ ประทับใจ และสร้างแรงบันดาลใจให้นักเรียนอยากไปสานต่อนอกห้องเรียน ครูที่ดีต้องใส่พลังมากขึ้นในยุคนี้ ครูดีๆ ทั้งไทยและเทศมีอยู่ในเมืองไทย แต่ยังน้อยไปมาก
ผมออกจากโรงเรียนสอนภาษาเพราะเขาให้เงิน "ครูฝรั่ง" มากกว่าผมทั้งๆ ที่ฝรั่งเป็นแค่ฝรั่งมาเที่ยวไทย แต่ผมเป็นครูไทยที่มีการฝึกฝนที่ดี
ผมออกจากมหาวิทยาลัยเอกชนเพราะเขาไม่ขึ้นเงินให้ครูเพราะบอกเงินน้อย แต่ทุกปีเห็นขึ้นตึกใหม่ๆ ลงทุนกับของเยอะมาก
3. สถาบันการศึกษา....เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้การศึกษาแย่ ได้เงินมาเยอะแต่แทนที่จะเอาให้ครูเยอะๆ ชอบไปลงทุนกับตึก อุปกรณ์ ให้หน้าตาโรงเรียนดู้ดี แต่ครูได้เงินน้อยเท่าเดิม บางโรงเรียนได้เงินน้อยก็ขอโทษนะครับแต่เงินต้องทุ่มไปที่คนก่อนของ ครูกับนักเรียน ไม่ใช่แค่ตึกกับอุปกรณ์ ส่วนโรงเรียนที่จน....รัฐบาล นักการเมือง และคนรวยมากๆ เขาชอบทำให้เราคิดว่าราชการไทยมีเงินน้อย...แต่ที่จริงประเทศเรามีเยอะกว่าทีเราคิดแต่เขาไม่ส่งมาเพราะจะเก็บไว้ให้ตัวเองและเพื่อลงไปแต่กับสิ่งของ
อีกอย่างสถาบันการเรียนการสอนของไทยชอบสอนวิชาที่มีสอง ย ... ยากและเยอะไปกว่าคุณภาพของเด็กที่ตัวเองมี และชอบสอนเน้นไปทางติวสอบยากๆ เพราะอยากให้หลักสูตรตัวเองดูสูง....เด็กก็เรียนไม่ไหว สอบตกกันหมด .... ผมแนะนำไปให้เขาทำบทเรียนและข้อสอบให้ง่ายขึ้น..."นักวิชาการ" ที่เน้นแต่สายหนังสือไม่ใช่สายชีวิตจริงบอกว่าง่ายไป.... จะทำให้เราดูไม่ดี.....ผมก็สอนและให้เขาสอบตามนั้น แต่เราก็ต้องสอนให้สนุกเด็กจะได้เปิดใจ แต่อย่างไรมันก็ยากเกินไปและเด็กสอบตกเกินครึ่ง ผมให้นักเรียนเขามาเรียนใหม่ ไม่ให้ทำ "โปรเจคท์แลกเกรด" เพรานั่นไม่ใช่การวัดที่ดี... ปรากฎว่า โดนเรียกเข้าไปคุยว่าห้ามให้เด็กตกเกินครึ่งห้อง แล้วมาโทษว่าผมสอนไม่ดีด้วย!! สุดท้ายคือ curve คะแนนให้ผ่านเกือบทั้งห้อง!!! ผ่านไปทั้งๆ ที่ยังไม่เก่งอะไรเลย เด็กไทยห้ามตกเยอะ ห้ามซ้ำชั้นเยอะ แค่จ่ายเงินมานั่งแล้วรับใบปริญญาเลย!!! รับเด็กไม่เก่งเพราะอยากได้เงินเขา ได้เงินเยอะก็มาสร้าง แต่ทำหลักสูตรให้ยากเพื่อให้ดูดี
ผมออกจากการเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเพราะเหตุนี้ด้วยครับ ทำให้บทเรียนยาก เน้นติวสอบ แต่ห้ามให้นักเรียนสอบตกเยอะไปและห้ามซ้ำชั้น ให้ผ่านไปเลย หรือ ช่วยให้เขาผ่านหน่อย
4. นักเรียน
นักเรียนสมัยนี้ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัย นักเรียนดีมีน้อย นักเรียนด้อยมีเยอะ
สำหรับผมนักเรียนดีไม่จำเป็นต้องเรียนดีฉลาดเกรดสูง แต่ขอให้มีความพยายามสูงและนิสัยดีก็พร้อมจะช่วย (ติวให้นะ ไม่ใช่ช่วยให้ผ่าน) แต่นักเรียนสมัยนี้ส่วนมากมีแต่
Dumbass โง่แล้วไม่แคร์
Jackass ชอบเล่นสนุกไร้สาระแล้วไม่แคร์
Smart ass อวดฉลาดแต่ไม่รู้
Badass เกเร ไม่สนใจเรียน
Cheap ass งกกับการเรียน
Lazy ass ขี้เกียจเรียน
Nice ass เน้นมาเรียนเพื่อมาโชว์ตูด โชว์สวย แต่ไม่ได้แคร์การเรียน แล้วคนพวกนี้เขารู้ว่าเขาแค่มาเช็คชื่อและมาสอบ เขาก็ผ่าน ผมเจอมาแล้วครับที่เด็กนัดสอบตกกันเพื่อให้ผ่านทั้งห้องและครูจะได้โดนด่าว่าสอนไม่มีประสิทธิภาพ
ผมลาออกจากการเป็นครูในระบบเพราะเจอนักเรียนแบบนี้เยอะเกินไปในยุคนี้
5. พ่อแม่
บ้านและพ่อแม่ถือเป็นอีกหนึ่งสถาบันการเรียนและครูของเด็ก แต่สมัยนี้พ่อแม่ก็ไม่แคร์และไม่ให้เวลารวมถึงช่วยสอนลูก โยนแต่ให้ครูกับโรงเรียน พอลูกเรียนไม่ดีก็ไปด่าครูกับโรงเรียน ไม่ด่าลูกตัวเอง ลูกตัวเองไม่ฉลาด ก็จะยัดเงินให้ลูกผ่านหรือได้เรียน ใช้อำนาจข่มขู่ครูก็มี นักเรียนไม่เรียนหรือพฤติกรรมไม่ดี ครูก็ด่าหรือทำโทษไม่ได้อีก
ในการเรียนภาษาอังกฤษ พ่อแม่แทนที่จะพยายามเป็นต้นแบบที่ดีให้ลูกเห็นว่าพ่อแม่ก็ชอบก็ใช้ก็ฝึก แต่ไม่ กลับโยนปมด้อยตัวเองให้ลูก บังคับให้ลูกเรียน ให้ลูกพูดกับฝรั่ง แต่ตัวเองไม่สนใจ ไม่พูดกับฝรั่ง ที่บ้านไม่มีความเป็นภาษาอังกฤษเลย แต่อยากให้ลูกตัวเองเรียน English Program / Bilingual / Inter
ดังนั้นพ่อแม่ก็มีส่วนในระบบการศึกษาไทยที่จะต้องมอบสองหัวให้กับเขาจากที่บ้าน นั่นคือหัวสมองที่มีความรู้และหัวใจที่มีความดี แต่ถ้าพ่อแม่ไม่มีหัวสมองและหัวใจที่ดี หรือมีแต่ไม่มีเวลาที่จะส่งต่อให้ลูก ไม่ค่อยแคร์ที่จะมอบความรู้และความดีให้กับลูกหลาน ครูและระบบก็เหนื่อยต่อครับ
6. ดาราคนดัง คนรวย
ผมแทบจะไม่เคยเห็นดาราคนดังรณรงค์เรื่องการเรียนที่ดีหรือออกมาเป็นต้นแบบหรือทำโครงการเพื่อให้เยาวชนไทยเป็นคนฉลาดคนดี มีแต่โพสต์เรื่องราวการไช้ชีวิตแบบเน้นเปลือกนอก ... ทำหน้า ทำนม ผิวขาว กินดีออกกำลังกายเพื่อจะได้ดูดี ใช้ของแพงแบรนด์เนม แต่งตัวโป๊ เที่ยว สนุกสนานเฮฮาอย่างเดียว....เป็น idol ที่ดีพอหรือเปล่า
ส่วนคนรวยชาวไทยมีกี่คนที่ทุ่มเทเงิน ทำโครงการดีๆ เพื่อการศึกษาไทยโดยเฉพาะเด็กยากไร้ ที่หลายๆ คนเป็นคนเก่ง เป็นคนดี และเป็นคนอยากเรียน
ที่เมืองนอกพวกเศรษฐีเขาให้เงินเป็นพันล้านเพื่อส่งเสริมการศึกษา แต่เศรษฐีไทยไม่ค่อยได้ยิน .... มีแต่ไปออกงานไฮโซ กินอาหารแพงราคา 1 มื้อเท่าเรากินหนึ่งปี ซื้อกระเป๋าใบละล้าน มีรถสปอร์ต 10 คัน ไปเมืองนอกทุกอาทิตย์ หาดาราเป็นแฟน
คนดังคนรวยต้องช่วยด้วยนะครับ ฝากคำคมผมไว้ให้ว่า
It's not what you are or what you have but it's what you do and what you give!
นี่เป็นโพสต์ที่ยาวที่สุดของผมเพราะผมเป็นห่วงอนาคตของประเทศเรา ประเทศชาติจะรอดจะเจริญ คนจะมีความสุขความสำเร็จมันขึ้นอยู่กับ 2 หัวของคน ถ้าคนในหมู่มากมีความรู้ที่ดีในหัวสมองและความดีในหัวใจ เราจะรอด
คริส ไรท์
การศึกษาไทยไม่ไปไหน...เหมือนเดิม
Reviewed by admin
on
9:23 AM
Rating:
No comments