ไทยไม่เปลี่ยนแปลงก้าวหน้าเลยหรือ?
เมืองไทยมีคนเป็นห่วงและปรารถนาดีต่อบ้านเมืองไม่น้อย นี่เป็นเรื่องดี และ มีอะไรเร่งด่วนอีกหลายอย่างเหลือเกินที่ต้องปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลง แต่ก็ต้องยอมรับว่าเราไม่ได้หยุดอยู่กับที่ ไม่ใช่ประเทศยากจนล้าหลังอีกแล้ว โลกนั้นมองว่าไทยเป็นประเทศ "รายได้ปานกลาง" คนส่วนใหญ่หาได้อยู่ในเขตชนบทแล้ว หากอยู่ในเขตเมืองหรือนครแล้ว คนจนนั้นยังมีอยู่จริง แต่ก็มีไม่มากนัก และประชากรส่วนใหญ่คือคนชั้นกลาง และคนชั้นกลางระดับล่าง ต่างหาก สินค้าของไทยนั้น จะเป็นทางเกษตร หัตถกรรม หรือ อุตสาหกรรม ล้วนถูกมองว่าเป็นสินค้าชั้นดี สมราคา ไม่แพง แข่งกับใครได้ไม่ยาก นอกจากนั้น ไทยขึ้นเป็นประเทศสำคัญในด้านการท่องเที่ยวของโลกไปแล้ว กทม ภูเก็ต พัทยา และ เชียงใหม่ กลายเป็นเมืองที่คนต่างชาติมาเยือนมากมายจนจัดอยู่ในเมืองชั้นต้นๆ ของโลกได้
ถ้าประเมินเมืองไทยกันเอง คนจำนวนไม่น้อยมีแนวโน้มจะให้เกรดว่า "สอบตก"หรือ"เกือบตก"อยู่เป็นนิจ ซึ่งในความเห็นผม จัดเป็นการให้เกรดที่เอนเอียงไปทางลบ ด้วยเหตุที่ผู้ให้เกรดรักประเทศนี้มาก อยากเห็นบ้านเมืองตนไปไกลกว่านี้อีกมาก และ ก็เป็นเพราะหวังผลงานจากรัฐมากไป แต่ถ้าดูจากสายตาคนต่างชาติ ผลที่ออกมาแทบจะตรงกันข้ามครับ ไทยสอบผ่าน อย่างสบายๆ
ดูจากการที่คนต่างชาติ ทั้ง อาเซียน จีน อินเดีย และ เอเชียใต้ที่เหลือ ล้วนนิยมสินค้าของไทย ก็ถือว่าสอบผ่านสบาย ดูจากการที่ผู้คนต่างชาติเลือกมาเที่ยวมาพักผ่อนไทยมากจนติดอันดับโลก ก็ถือว่าผ่านฉลุยอีก ต่างชาติพากันมองว่าไทยนั้นมาง่าย เที่ยวง่าย ปลอดภัย ไม่แพง ผู้คนน่ารัก มีของดีๆ ให้ช้อป มี โบราณสถานและธรรมชาติดีๆ มีเรื่องดีๆ คนดี ๆ เยอะแยะ ซึ่งก็ชี้อีกว่า สอบผ่าน อาจสอบได้ A เสียด้วย ดูจากที่โลกเขามองว่าไทยนั้นมีเศรษฐกิจใหญ่ทีเดียว ถ้าวัดด้วยกำลังซื้อที่เป็นจริง จะเป็นอันดับที่ 22 ก็ถือว่าผ่านอีก เพราะใหญ่กว่าถึง 170 กว่าประเทศในโลกใบนี้ เศรษฐกิจเรา เอาเข้าจริง "ไม่ถือว่าเล็ก" ครับ "รู้ตัว" กันหรือเปล่า ? ยิ่งกว่านั้น ถ้าวัดที่เรามีเงินเฟ้อต่ำ มีการว่างงานน้อย มีค่าเงินบาทมั่นคง และชาวบ้านเรา "พอเพียง" ในเรื่องอาหารการกินด้วย ก็จัดว่า ไทย "ผ่าน" อย่างแน่นอน
การสอบผ่านกับการทำงานต่อไป นี่ก็เป็นคนละเรื่องกันนะครับ สอบผ่านก็ผ่านเพียงให้หัวใจชุ่มชื่นและมีกำลังใจ มีความหวังว่าอีก "หลายวิชา" ที่ยังทำได้ไม่ดี หรือผ่านแค่หวุดหวิด คงจะแก้ไขได้เช่นกัน อาทิ ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น ปัญหารวมศูนย์อำนาจเกินไป ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางโอกาส ทางรายได้ และทางทรัพย์สิน ปัญหาสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรธรรมชาติ ปัญหาคุณภาพ และความเหมาะสมของการศึกษาไทย ปัญหาความไม่เท่าเทียม หรือ ความไม่สมดุลย์ระหว่างเมืองใหญ่ฝ่ายหนึ่งกับเมืองเล็กและชนบท อีกฝ่ายหนึ่ง ปัญหาการต่อสู้กันทางการเมืองจนสังคมแตกแยก และ แตกหัก และปัญหาว่าจะพากันกลับสู่สมานฉันท์ด้วยวิถีทางประชาธิปไตยอย่างไร เพื่อให้บ้านเมืองเจริญยั่งยืน
อนึ่ง การบริหารและพัฒนาประเทศนั้นย่อมไม่ใช่แค่การสอบผ่านหรือไม่และไม่ใช่เป็นการแก้ปัญหาเท่านั้น แต่ยังอยู่ที่การเปิดโอกาสใหม่ให้ประเทศได้ด้วย ผู้นำที่ดี รัฐบาลที่ดี สังคมที่ดี จึงไม่เพียงเพียรแก้ปัญหา แต่ยังต้องมีกรอบคิดวิสัยทัศน์ที่จะนำพาประเทศไปสู่โอกาสใหม่ๆ ด้วย ซึ่งตรงนี้แหละที่เราไม่เพียงแต่จะต้องตระหนักว่าในเรื่องหลักๆ นั้นเราสอบผ่าน ดังที่กล่าวมาข้างต้นเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสใหม่รอเราอยู่อีกมาก จากจุดแข็งที่มีอยู่จริงเช่น
1. ศักยภาพของคนไทยในการเข้าสู่ "หลั่นล้าอีโคโนมี" ถือว่าสูงมาก
2. ที่ตั้งของเรา เป็นศูนย์กลางของเออีซี และโยงต่อไปเข้าสู่จีนและอินเดียได้อีก
3. เรามีฝั่งทะเลที่ยาวเป็นอันดับสองในอาเซียนภาคพื้นดินยาวเป็นรองเวียดนามไม่มาก ยาวกว่าพม่า
4. เรา "รวยทะเล รวยสมุทร" เรามีถึงสองมหาสมุทร ส่วนเวียดนามนั้น แม้ฝั่งทะเลเขาจะยาวกว่าไทย แต่ก็มีเพียงมหาสมุทรเดียว จีนนั้นแม้พื้นที่จะใหญ่เป็น 20 เท่าของเรา ก็มีเพียงมหาสมุทรปาซิฟิก ไม่มีมหาสมุทรอินเดียด้วย
ยกมาเพียงสี่จุดนี้ ก็น่าจะทำให้ท่านที่ห่วงใยและปรารถนาดีต่อเมืองไทย ได้มีความหวังว่าข้างหน้าจะไม่มืดมน ขอแค่เพียงมีรัฐบาลที่เก่งและดีแค่แบบโดยเฉลี่ย และมีสังคมที่ว่องไวและรู้จักปรับตัวได้แบบเฉลี่ย เท่านั้น ก็จะเดินหน้าต่อไปได้ไม่ยากนัก
เอนก เหล่าธรรมทัศน์
เอนก เหล่าธรรมทัศน์
ไทยไม่เปลี่ยนแปลงก้าวหน้าเลยหรือ?
Reviewed by admin
on
11:46 PM
Rating:
No comments