เกษตรทฤษฎีใหม่กับการพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออกไกลของรัสเซีย


หลังจากเงียบหายไปพักหนึ่ง ล่าสุดก็มีข่าวความคืบหน้าโครงการแจกที่ดินในภาคตะวันออกไกลของรัสเซียออกมาแล้วครับ

ปัจจุบันโครงการนี้ยังอยู่ในระยะเริ่มต้น โดยกำลังแจกที่ดินให้ประชาชนที่อยู่ในภาคตะวันออกไกลอยู่แล้วก่อน แล้วในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าถึงจะเริ่มแจกที่ดินให้คนรัสเซียในเขตอื่นๆทั่วประเทศครับ อย่างไรก็ตามเริ่มมีผู้ตั้งข้อสังเกตถึงปัญหาของโครงการนี้ 3 ข้อใหญ่ๆคือ

1.ที่ดินมีขนาดไม่ใหญ่พอแก่การทำเกษตร : ที่ดินที่แจกมีขนาดแปลงละ 1 เฮกแตร์ (2.5 เอเคอร์หรือประมาณ 6 ไร่เศษๆ) ถูกหลายคนมองว่ามีขนาดเล็กเกินไปที่จะใช้ทำการเกษตร โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับสมัยจักรวรรดิรัสเซีย ช่วงศตวรรษที่ 19 รัฐบาลแจกที่ดินถึงแปลงละ 17 เฮกแตร์ (ชาวคอสแซคได้แปลงละ 32 เฮกแตร์) ที่ดิน 1 เฮกแตร์ถูกมองว่าใช้ทำประโยชน์ได้อย่างมากก็เพียงสร้างดาช่า (Dacha) หรือบ้านพักตากอากาศเท่านั้น ซึ่งคงไม่มีใครลงทุนย้ายไปไซบีเรียเพียงเพื่อจะสร้างบ้านพักตากอากาศ

2.ขาดแคลนสิ่งก่อสร้างพื้นฐานและการคมนาคมไม่สะดวก ที่ดินบางแปลงไม่สามารถเข้าถึงด้วยรถยนต์ได้เพราะมีที่ดินแปลงอื่นขวางอยู่

3.การทุจริตคอรัปชั่นของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นซึ่งพยายามเก็บที่ดินแปลงที่ดีที่สุดไว้ใช้เอง

ปัญหาข้อ 3 เป็นเรื่องที่ทางรัสเซียต้องหามาตรการแก้ไขเอง ส่วนข้อ 2 ถ้ารัฐบาลรัสเซียไม่มีทุนพอจะพัฒนาพื้นที่ก็ต้องหาต่างชาติมาลงทุน ที่ผ่านมามีแคนดิเดตอยู่ 4 ประเทศคือจีน อินเดีย เกาหลีใต้และญี่ปุ่น แต่ก็ยังแก้ปัญหาได้ไม่หมดเพราะจีนสนใจแต่โครงการระดับ Mega project เข้าไม่ถึงประชาชน (แถมโดนระแวงอีก) อินเดียก็สนใจแต่ด้านพลังงาน ลงทุนบ่อก๊าซต่างๆ เกาหลีใต้ก็สนใจแต่เกาหลีเหนือ ส่วนญี่ปุ่นก็จ้องจะเอาเศรษฐกิจมากดดันรัสเซียเรื่องข้อพิพาทหมู่เกาะคูริล เรื่องจึงยังคาราคาซังอยู่ ขอไม่ลงรายละเอียดตรงนี้เพราะไม่ใช่ประเด็นสำคัญในบทความ

ประเด็นที่ผมสนใจคือปัญหาข้อที่ 1 เรื่องขนาดพื้นที่ในการเกษตรครับ ถ้าคิดจะทำฟาร์มขนาดใหญ่เป็นธุรกิจ ที่ดินแค่ 6 ไร่เศษๆก็อาจจะไม่เพียงพอ แต่ถ้าเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ คือแทนที่จะฝันถึงธุรกิจใหญ่โตตั้งแต่ยังไม่ทันบุกเบิกที่ดินเลยเปลี่ยนมาเป็นการวางแผนใช้ประโยชน์จากที่ดิน 6 ไร่เศษๆนั้นให้สามารถพึ่งพาตัวเองได้น่าจะเป็นการดีกว่า ตรงจุดนี้เองที่ประเทศไทยสามารถเสนอตัวเข้าไปได้ครับ เราอาจไม่มีเทคโนโลยีหรือเงินทุนมากมายมหาศาลที่จะไปลงทุน Mega project ในพื้นที่เหมือนมหาอำนาจทางเศรษฐกิจประเทศอื่นๆได้ แต่ประเทศไทยมีองค์ความรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ของพ่อหลวง ซึ่งผมเชื่อว่าสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ เพียงแต่อาจต้องศึกษาสภาพภูมิประเทศ สภาพอากาศและพืชพรรณธัญญาหารของรัสเซียเพิ่มเติมเท่านั้น ขนาดที่ดินไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใดเพราะในประเทศไทยก็เคยทำสำเร็จมาแล้วในที่ดินขนาดเพียง 1 และ 5 ไร่เท่านั้น ตามตัวอย่างข่าวด้านล่างนี้ครับ

http://www.thairath.co.th/content/301451

http://www.life.ac.th/web/node/166

ผมมองว่าถ้าประเทศไทยเสนอตัวเข้าไปใช้เกษตรทฤษฎีใหม่ช่วยให้คำแนะนำในการบริหารจัดการที่ดินในโครงการนี้จะให้ผลดีหลายประการ

1.เป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ไทย-รัสเซียในระดับของประชาชน ซึ่งผมมองว่าเป็นระดับที่จริงใจต่อกันยั่งยืนที่สุด ไม่มีเรื่องผลประโยชน์เกี่ยวข้องมากนัก โดยเฉพาะปีหน้าความสัมพันธ์ไทย-รัสเซียก็จะครบรอบ 120 ปีถือเป็นโอกาสอันดีครับ

2.เป็นการเผยแพร่พระเกียรติคุณของพ่อหลวงออกไปในระดับโลก แบบเห็นผลเป็นรูปธรรม รวมถึงสามารถนำมาเป็น portfolio และต่อยอดกับนโยบายในระดับโลกของไทยที่เคยแถลงไว้ในโอกาสต่างๆว่าจะสนับสนุนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงด้วย

3.ประเทศไทยได้พื้นที่สำหรับทดลองแนวคิดทางการเกษตรต่างๆก่อนที่จะนำกลับมาใช้ในประเทศไทย เพราะรัสเซียเป็นประเทศใหญ่ มีที่ดินสามารถใช้ทำประโยชน์ได้มาก (ถ้าได้รับการบุกเบิกอย่างเหมาะสม)

เป็นต้น

ที่สำคัญที่สุด ผลดีที่ว่านี้สามารถเกิดขึ้นได้โดยที่ประเทศไทยไม่ต้องลงทุนทรัพย์สินเงินทองมากมาย หรืออาศัยเทคโนโลยีที่สลับซับซ้อนแต่อย่างใด ใช้เพียงแค่องค์ความรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ที่เรามีอยู่แล้วไปประยุกต์กับสภาพแวดล้อมของรัสเซียเท่านั้นเองครับ

การทูตและการทหาร Military & Diplomacy
เกษตรทฤษฎีใหม่กับการพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออกไกลของรัสเซีย เกษตรทฤษฎีใหม่กับการพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออกไกลของรัสเซีย Reviewed by admin on 1:41 AM Rating: 5

No comments