สงครามการค้าฉุดเศรษฐกิจจีนทำค่าเงินหยวนลด ส่งผลกระทบท่องเที่ยวไทย
วันนี้ผมอยากจะพูดเรื่องจีนครับ มีการตีข่าวว่าจำนวนทัวร์จีนลดจำนวนวูบ ผมก็คิดว่าน่าจะวูบอยู่ครับ เรื่องนี้ไม่ต่างกับที่ทัวร์มาเลย์หายไปจากหาดใหญ่มาหลายปีแล้วก็เป็นเหตุคล้ายๆ กัน นั่นก็คือเรื่องของเศรษฐกิจในบ้านของเขานั้นไม่ดี ค่าเงินของเขาลดลงเมื่อเทียบกับเงินบาทแล้วใครจะมีกำลังมาเที่ยวได้เหมือนเดิม ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเรือล่มแล้วเขาโกรธเราอย่างที่มีคนตีข่าวแล้วด่ารัฐบาลหรอกครับ
ในช่วงไตรมาสที่ 2-3 นั้นค่าเงินหยวนตกลงไปแล้วมากกว่า 9% เมื่อเทียบกับเงินดอลล่าร์สหรัฐ ทุนสำรองของประเทศลดลง 22.7 พันล้านเหรียญในเดือนที่แล้ว (ก.ย.) จากการตกของค่าเงินและใช้พยุงค่าเงิน ซึ่งจีนนั้นมีทุนสำรองอยู่สูงมากถึงประมาณ 3 ล้านล้านเหรียญเลยทีเดียว (ถ้าจะคิดประมาณให้เห็นภาพคือเท่ากับงบประมาณของประเทศไทยใช้ได้สามสิบกว่าปี)
สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนนั้นทำให้เศรษฐกิจจีนนั้นวูบลงไปโดย IMF ได้ปรับตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนจาก 3.9% ลดลงเป็น 3.7% ซึ่งสงครามการค้านั้นคาดว่าจะฉุดเศรษฐกิจโดยรวมของโลกจากการตั้งภาษีสู้กันและกันของเบอร์ 1 และเบอร์ 2 ของโลกไปถึง 0.8% เลยทีเดียว
สิ่งที่จีนได้ทำเพื่ออัดฉีดนั้นไม่ใช่เพียงแต่เอาเงินสำรองมาอัดฉีดพยุงค่าเงินเท่านั้น แต่ได้ประกาศลดเงินสำรองของธนาคารพาณิชย์ภายในประเทศ (RRR) ลงมาสี่รอบแล้ว โดยธนาคารกลางของจีนได้ประกาศปรับลดลงอีก 1% ในสัปดาห์หน้า คาดว่าจะมีเงินไหลออกมาอัดฉีดสภาพคล่องอีก 1.75 แสนล้านเหรียญ และคาดการว่าน่าจะมีการลด RRR อีกรอบก่อนสิ้นปีนี้แน่นอน
เรื่องนี้ใช่ว่าจะดีกับจีนหรอกนะครับ แต่จะทำให้สัดส่วนหนี้ต่อจีดีพีของจีนนั้นกำลังวิ่งขึ้นไปแตะ 240% จากการที่ธนาคารเอกชนสามารถเพิ่มหนี้จากการปล่อยสินเชื่อได้เพิ่มขึ้นอีก ซึ่งเรื่องนี้มันเป็นวงจรอุบาทว์วนกลับมาแบบไม่หยุด แต่จีนนั้นไม่มีทางเลือกในการแก้ปัญหาระยะสั้น
เรื่องนี้ใช่ว่าจะดีกับจีนหรอกนะครับ แต่จะทำให้สัดส่วนหนี้ต่อจีดีพีของจีนนั้นกำลังวิ่งขึ้นไปแตะ 240% จากการที่ธนาคารเอกชนสามารถเพิ่มหนี้จากการปล่อยสินเชื่อได้เพิ่มขึ้นอีก ซึ่งเรื่องนี้มันเป็นวงจรอุบาทว์วนกลับมาแบบไม่หยุด แต่จีนนั้นไม่มีทางเลือกในการแก้ปัญหาระยะสั้น
และอีกอย่างคือจีนเองต้องกันเงินไหลออกจากประเทศด้วยจากการที่สหรัฐประกาศขึ้นดอกเบี้ยไปอีกครั้งละ 0.5% ต่อเนื่องกันหลายครั้งในปีนี้ ทำให้จีนต้องขยับดอกเบี้ยขึ้นไปด้วยถ้าไม่อยากให้เงินทุนไหลออก เวลานี้อัตราดอกเบี้ยที่ประกาศจากธนาคารกลางของจีนยังคงที่ระยะห่างกับสหรัฐอยู่ 0.5%
ซึ่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาหลังจากเปิดทำการวันแรกของช่วงหยุดยาวมูลค่ารวมของตลาดหุ้นจีนทั้งหมดรูดลงไปไม่น้อย
- เซียงไฮคอนโพสิต (SSE) ลดลง 2.4%
- ซีเอสไอ 300 (CSI 300) วูปไป 3% ถือว่าลงไปลึกที่สุดในรอบ 10 ปี นักลงทุนต่างชาติเทขายไปผ่านโบรคเกอร์ฮ่องกงในรูปของค่าเงินหยวน ซึ่งตัวเลขรวมแล้ว 9.7 พันล้านหยวน ทำให้ค่าเงินหยวนลดลงไปอีกเกือบชน 1% แตะ 6.93xx หยวนต่อดอลล่าร์ สรอ.
อย่างที่ผมบอกไว้แต่แรกว่าถ้าสภาพเงินหยวนมันลดลงแบบไม่หยุดอย่างนี้แล้วใครยังจะอยากเที่ยวต่างประเทศอีก และอีกอย่างคือก่อนที่จะมีการประกาศสงครามการค้ากันมูลค่า 200 พันล้านเหรียญเมื่อเดือนที่ผ่านมานั้น (24 ก.ย.) ออเดอร์สินค้าของจีนนั้นพุ่งเข้ามาท่วมโรงงานจนบางแห่งนั้นต้องทำงานกันสองสามกะเลยทีเดียว เพราะต้องรีบส่งมอบสินค้าก่อนที่จะเจอเส้นตายของวันที่ประกาศ ซึ่งแน่นอนว่ามนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่คงไม่สามารถหยุดงานมาเที่ยวได้ แต่หลังจากนั้นก็ออเดอร์วูบลง ทำให้มนุษย์เงินเดือนก็ต้องคิดหนักว่าจะเก็บเงินเอาไว้ใช้ปีหน้าหรือเอามาเที่ยวดี
นอกจากการท่องเที่ยวจะกระทบกับประเทศไทยในเวลานี้แล้ว แต่นั่นคือแค่เพลงโหมโรงเปิดหน้าม่านเท่านั้น ปีหน้าเราคงต้องมองยาวไปถึงเรื่องการส่งออกด้วย เพราะจีนนั้นซื้อวัตถุดิบจากบ้านเรามิใช่น้อย ถ้าการผลิตลดลงแน่นอนว่าเราก็คงขายวัตถุดิบได้น้อยลง ซึ่งทั้งสองประเทศ จีน-สหรัฐ ซื้อของจากเราถึง 1 ใน 4 ของยอดการส่งออกทั้งประเทศเลยทีเดียว ผมบอกได้เลยนะครับว่าสินค้าอะไรที่คนกินไม่ได้คงจะส่งออกฝืดพอสมควร แต่ก็ไม่ใช่ว่าสินค้าเกษตรจะไม่โดนไปด้วย เพราะมันคือวัตถุดิบส่วนหนึ่งในการผลิตต่อยอดไม่ใช่เป็นอาหารเพียงอย่างเดียว
ปีหน้าเป็นปีลำบากของเราที่จะโดนผลกระทบจากช้างชนกันในครั้งนี้ และเป็นปีที่จะพิสูจน์ฝีมือของทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ว่าจะเก่งได้เท่ากับรัฐบาลทหารที่ทำให้เศรษฐกิจของเราบินสูงกว่าประเทศอื่นในกลุ่มอาเซียนมาตลอดสามปีหรือไม่
Pat Hemasuk
อย่างที่ผมบอกไว้แต่แรกว่าถ้าสภาพเงินหยวนมันลดลงแบบไม่หยุดอย่างนี้แล้วใครยังจะอยากเที่ยวต่างประเทศอีก และอีกอย่างคือก่อนที่จะมีการประกาศสงครามการค้ากันมูลค่า 200 พันล้านเหรียญเมื่อเดือนที่ผ่านมานั้น (24 ก.ย.) ออเดอร์สินค้าของจีนนั้นพุ่งเข้ามาท่วมโรงงานจนบางแห่งนั้นต้องทำงานกันสองสามกะเลยทีเดียว เพราะต้องรีบส่งมอบสินค้าก่อนที่จะเจอเส้นตายของวันที่ประกาศ ซึ่งแน่นอนว่ามนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่คงไม่สามารถหยุดงานมาเที่ยวได้ แต่หลังจากนั้นก็ออเดอร์วูบลง ทำให้มนุษย์เงินเดือนก็ต้องคิดหนักว่าจะเก็บเงินเอาไว้ใช้ปีหน้าหรือเอามาเที่ยวดี
นอกจากการท่องเที่ยวจะกระทบกับประเทศไทยในเวลานี้แล้ว แต่นั่นคือแค่เพลงโหมโรงเปิดหน้าม่านเท่านั้น ปีหน้าเราคงต้องมองยาวไปถึงเรื่องการส่งออกด้วย เพราะจีนนั้นซื้อวัตถุดิบจากบ้านเรามิใช่น้อย ถ้าการผลิตลดลงแน่นอนว่าเราก็คงขายวัตถุดิบได้น้อยลง ซึ่งทั้งสองประเทศ จีน-สหรัฐ ซื้อของจากเราถึง 1 ใน 4 ของยอดการส่งออกทั้งประเทศเลยทีเดียว ผมบอกได้เลยนะครับว่าสินค้าอะไรที่คนกินไม่ได้คงจะส่งออกฝืดพอสมควร แต่ก็ไม่ใช่ว่าสินค้าเกษตรจะไม่โดนไปด้วย เพราะมันคือวัตถุดิบส่วนหนึ่งในการผลิตต่อยอดไม่ใช่เป็นอาหารเพียงอย่างเดียว
ปีหน้าเป็นปีลำบากของเราที่จะโดนผลกระทบจากช้างชนกันในครั้งนี้ และเป็นปีที่จะพิสูจน์ฝีมือของทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ว่าจะเก่งได้เท่ากับรัฐบาลทหารที่ทำให้เศรษฐกิจของเราบินสูงกว่าประเทศอื่นในกลุ่มอาเซียนมาตลอดสามปีหรือไม่
Pat Hemasuk
สงครามการค้าฉุดเศรษฐกิจจีนทำค่าเงินหยวนลด ส่งผลกระทบท่องเที่ยวไทย
Reviewed by admin
on
11:34 PM
Rating:
No comments