ประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจากการจัดโมโตจีพี คือการประชาสัมพันธ์ประเทศ
มีลูกเพจถามว่าแอดมิน คิดอย่างไรกับโมโตจีพี ที่จัดขึ้นที่ประเทศไทย
ความรู้สึกของผมคือ เป็นแง่บวกครับ
อันนี้ไม่ได้อวย และไม่ได้สปอนเซอร์อะไรเลย แต่ คิดว่าเป็นก้าวย่างที่สำคัญมากๆของวงการกีฬา และวงการมอเตอร์สปอร์ตของไทย เราก็ต้องยอมรับตามตรง
ที่ผ่านมาอีเวนต์กีฬาระดับโลกจริงๆที่ไทยเคยจัดมีอะไรบ้าง?
ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก, เอเชียนเกมส์, เทนนิส ATP และ WTA ทัวร์ ทั้งหมดก็ถือเป็นรายการใหญ่ แต่ยังไม่ใช่ระดับโลก
ที่ผ่านมาเราเคยยื่นเสนอขอเป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิกเกม ในปี 2008 แต่ก็ไม่ผ่านรอบคัดเลือกรอบแรก สาเหตุเพราะเรายังไม่พร้อมหลายๆด้าน (ณ เวลานั้น) ทั้งการคมนาคมพื้นฐาน รวมถึง สนามแข่งขันที่ไม่ได้มาตรฐานพอ
รวมถึงเคยมีไอเดีย ที่จะยื่นเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก แต่ก็แน่นอนว่า ยื่นไป ก็ต้องโดนตอบปฏิเสธกลับมาแน่นอนอยู่แล้ว
ดังนั้น โมโตจีพี จึงเป็นรายการระดับโลกจริงๆ ที่นักกีฬาชั้นนำของวงการทุกคน ต้องมาเข้าร่วมด้วย เพราะมันเป็น 1 ใน 19 รายการคะแนนสะสมโลก ถ้าคุณไม่มา คะแนนก็ไม่มี
มันต่างจาก เทนนิสเอทีพีทัวร์ ไทยแลนด์โอเพ่น ที่ไทยเคยจัด คือในเวลาเดียวกันกับที่เราจัด มีชาติอื่นๆก็จัดแข่งด้วย อยู่ที่นักเทนนิสเอง จะเลือกแข่งรายการไหน อย่างในปี 2008 ไทยแลนด์โอเพ่น มีโนวัค ยอโควิช กับ โจ วิลฟรีด-ซงก้ามาแข่ง แต่ในรายการที่แข่งเวลาเดียวกัน ไชน่าโอเพ่น ก็มี นักเทนนิสดังๆอย่างแอนดี้ ร็อดดิคเป็นต้น
แต่ในเคสของโมโตจีพี วาเลนติโน่ รอสซี่, มาร์ก มาร์เกวซ, อันเดรีย โดวิซิโอโซ่, มาเวอร์ริก บียาเลส ฯลฯ นักแข่งตัวท็อป เดินทางมาที่ไทยหมด เพื่อเป้าหมายคือการคว้าแชมป์สนามนี้ให้ได้
ขณะที่สนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต มีระดับคุณภาพสูงสุดเท่าที่จะหาได้ในโลกนี้แล้ว
นักขับหลายคนบอกว่าพอลองเทสต์สนามแล้ว รู้สึกพอใจกับแทร็ค การขับขี่โอเค เป็นสนามใหม่ ที่ได้มาตรฐาน
นั่นเพราะสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เป็นแค่ไม่กี่สนามในโลก ที่ได้เกรด A จาก FIM (จัดอันดับ สำหรับการแข่งมอเตอร์ไซค์) และ ได้เกรด 1 จาก FIA (จัดอันดับสำหรับแข่งรถ 4 ล้อ) เท่ากับว่า สนามแห่งนี้จัดได้ทั้ง โมโตจีพี และ เอฟวัน ในสนามเดียว
ดังนั้นก็สามารถรับประกันได้ระดับหนึ่งว่า การแข่งขันที่คนทั่วโลกจะได้ดู มันจะเป็นการแข่งที่มีคุณภาพแน่ๆ
ความน่าสนใจของแทร็ค คือเป็นหนึ่งในไม่กี่สนามของโมโตจีพี ที่มีระยะทางตรงยาวเกือบ 1 กิโลเมตร จะเป็นการวัดกันในเรื่องความเร็วเพียวๆ ขณะที่มุมโค้ง ก็มีทางลาดชันแบบ Slope ซึ่งมีความน่าสนใจ
ถ้าย้อนกลับไปเมื่อปี 2558 รอสซี่ เคยมาเปิดตัว Yamaha YZF-R3 ที่บุรีรัมย์ เจ้าตัวขับ R3 ที่มีเครื่องยนต์ 321 ซีซี ลงที่ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ในครั้งนั้นเขาบอกว่าไม่ค่อยชอบนัก เพราะสนามเต็มไปด้วยทางตรง
แต่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เมื่อรอสซี่กลับมาบุรีรัมย์อีกครั้ง ในการทดสอบรถวินเทอร์เทสต์ คราวนี้ ใช้รถ 1000 ซีซี แบบที่ใช้แข่งจริง ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า มันท้าทายกว่าที่คิดในตอนแรก แม้จะมีทางตรงยาว แต่ก็ไม่ได้น่าเบื่อ เหมือนตอนใช้รถรุ่นเล็กลองขับเมื่อ 3 ปีก่อน
ส่วนมาร์ก มาร์เกวซ แชมป์โลกจากฮอนด้า ก็บอกว่า ตอนที่เขาขับสกู๊ตเตอร์ตรวจสอบสนาม ก็คิดว่า น่าจะต้องวัดกันที่สปีด แต่พอใช้ Honda RC213V ลองเทสต์ดูจริงๆ ปรากฏว่ามันตรงกันข้าม เขาต้องลดเกียร์เวลาอยู่ในโค้ง จุดเบรก การอ่านไลน์ ถือว่ายากมาก และท้าทายสำหรับนักขับมืออาชีพ
ดังนั้น จากที่นักขับออกมาให้สัมภาษณ์กัน เราพอรู้ได้เลยว่า เรซนี้ สนุกกว่าที่คิดแน่
และอย่าลืมว่านี่คือ รายการที่จัดขึ้นในปีแรก ถ้าหากใครได้แชมป์คนแรก ก็จะถูกจารึกชื่อไว้ ว่าเป็นคนประเดิมรายการนี้ ดังนั้นเราจะเห็นความทุ่มเทเต็มร้อยของนักแข่ง และทีมผู้ผลิตอย่างแน่นอน
นอกเหนือจากความสนุกที่เราจะได้เห็นในการแข่งแล้ว
ประโยชน์ที่ไทยจะได้รับแน่ๆ จากการจัดโมโตจีพี คือการประชาสัมพันธ์ประเทศ
เราอาจคิดว่าประเทศไทย ก็มีชื่อเสียงระดับโลกอยู่แล้ว แต่ละปี มีปริมาณนักท่องเที่ยวเข้าประเทศเราในระดับท็อปเท็นของโลก มันจะมีชื่อเสียงมากเท่าไหร่เชียว คือเราไม่ใช่ประเทศเล็กๆที่ไม่มีใครรู้จักเสียหน่อย
แต่ผมมองแบบนี้ครับ ว่าการแข่งโมโตจีพี มันไม่ได้ทำให้คนรู้จักเรา "มากขึ้น" แต่ทำให้คนรู้จักเรา "ดีขึ้น"
จังหวัดบุรีรัมย์ อาจเคยจัดการแข่งขันใหญ่ๆมาแล้ว อย่างเวิลด์ซูเปอร์ไบค์ หรือ ฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รวมถึงฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่ แต่เมื่อมาเป็นโมโตจีพี มันก็อีกสเกลหนึ่ง คนต่างชาติก็ต้องทำการบ้านมากขึ้นว่า เอ๊ะ จังหวัดบุรีรัมย์มันอยู่ตรงไหนของประเทศไทย รวมถึงวางแผนในการท่องเที่ยวว่า นอกจากไปดูโมโตจีพีแล้ว ยังสามารถไปเที่ยวตรงไหนใกล้เคียงได้อีกบ้าง
นอกจากนั้น ในยามที่ประเทศขาดเสถียรภาพทางการเมือง รวมถึงมีข่าวร้ายๆอย่างเหตุการณ์เรือล่มที่ภูเก็ต จนมีนักท่องเที่ยวขาดหายไปเป็นจำนวนมาก การมีอีเวนต์ใหญ่ๆ เข้ามาสร้างกระแสก็เป็นเรื่องดี เพราะทำให้เห็นว่าประเทศไทยยังคงแข็งแรงดี
เราอยากทำให้ทุกคนเห็นว่า เรายังเป็นประเทศที่สนุก และพร้อมต้อนรับแขกเสมอ ดูได้อย่าง คลิปที่โมโตจีพีปล่อยออกมา ไปถ่ายทำมาร์ก มาร์เกวซ ขี่มอเตอร์ไซค์รอบเกาะรัตนโกสินทร์ และขับตุ๊กตุ๊กอย่างเฮฮาปาร์ตี้ บรรยากาศมันสนุกสนานมาก
นี่ถือเป็นการสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกให้กับประเทศครับ
ขณะที่เรื่องเงินสะพัดในระยะสั้น อันนี้ก็แน่นอนอยู่แล้ว โรงแรมที่พักในจังหวัดโดนจองเต็มหมด รวมไปถึงจังหวัดใกล้เคียงอย่างสุรินทร์ และอาจไปถึงโคราชเลยด้วย
ทีมงานของดูคาติ เชิญนักข่าวไปพัก แต่ต้องไปพักที่สุรินทร์ เดินทาง 1 ชั่วโมง ขณะที่ทีมงานฮอนด้า เชิญนักข่าวไปพัก แต่ต้องไปนอนที่โคราช เดินทางมี 3 ชั่วโมง คือการมาจองห้องพักใกล้สนามแข่ง ในช่วงก่อนวันแข่งขันมันเป็นไปไม่ได้แล้ว
ส่วนชาวบ้านท้องถิ่น ก็จะได้ทำรายได้กันเป็นกอบเป็นกำ กับบริการรถรับส่งในระยะสั้นๆ
ทุกอย่างเป็นเงินเป็นทอง เป็นโอกาสทำรายได้ของคนพื้นที่ ขณะที่คนที่ไปเที่ยวไปดูกีฬา ก็ต้องเปิดใจกว้างๆ และเตรียมรับมือกับสิ่งที่ไม่คาดคิด เพราะแน่นอน อะไรๆกับปีแรกก็คงยังไม่เพอร์เฟ็กต์
คือ เข้าใจอยู่ว่าผู้จัดการแข่งขันพยายามเต็มที่ แต่กับปีแรก กับสเกลงานอีเวนต์กีฬาระยะสั้นที่ใหญ่ที่สุดที่ไทยเคยมีมา มันต้องมีปัญหารุมเร้าอยู่แล้ว
ที่พักก็มีคนบ่นกันมากมาย ว่าไม่เพียงพอ มีการโก่งราคาที่พักกันดื้อๆ ทางผู้จัดก็มีการจัดเอาเต๊นท์มาวางตามจุดต่างๆ แต่ถ้าสมมติฝนตกขึ้นมาเละเทะล่ะ จะทำแบบไหน?
เรื่องการจราจรขนส่งก็น่าสนใจ คนแสนคน เดินทางไปสนาม และออกจากสนามพร้อมกัน จะสามารถจัดการได้แค่ไหน ในเบื้องต้น สำหรับคนที่ไม่ได้รับอนุญาตให้จอดรถในเขตรอบนอกสนาม คงต้องมีการเดินกันริมถนนหลายกิโลแน่นอน
เอาเป็นว่า ในฐานะที่เป็นคนรักกีฬาคนหนึ่ง ก็ขอเอาใจช่วยให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
งานอีเวนต์ใหญ่ขนาดนี้ ถือเป็นความภูมิใจของประเทศ ทำให้คนทั้งโลกเห็นว่า ถ้าเราจะทำ เราก็ทำได้
แต่อย่าลืมข้อสำคัญว่า นี่คือการจัดโมโตจีพีครั้งแรกของประเทศไทย แน่นอนมันสนุก แต่มันต้องเต็มไปด้วยความผิดพลาดอยู่แล้ว
ดังนั้นถ้าเห็นอะไรไม่ดี ก็ใจเย็นๆไม่ต้องด่าทออะไรกันแรงๆ
แค่ตักเตือนกัน แนะนำกัน จดจำและเรียนรู้ทุกอย่าง เพื่อทำครั้งต่อไปให้ดีขึ้นกว่าเดิมขึ้นเรื่อยๆ ดีไหม
วิศรุต สินพงศพร
ประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจากการจัดโมโตจีพี คือการประชาสัมพันธ์ประเทศ
Reviewed by admin
on
11:42 PM
Rating:
No comments